วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2552

เรื่องย่อละคร DADDY DUO คุณพ่อจอมเฟี้ยว

บทประพันธ์ / บทโทรทัศน์ : ทองเอก
กำกับการการแสดง : องอาจ สิงห์ลำพอง
ดำเนินงานสร้าง : บริษัท ย๊าค จำกัด ในเครือ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน)
เวลาออกอากาศ : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.40-21.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี

พัทธ์ (ฟิล์ม-รัฐภูมิ) หนุ่มไฮโซเนื้อหอม เพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ นิสัยใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง เพราะได้รับการเลี้ยงดูอย่างตามใจจากคุณพ่อ เจษฎา (ตฤณ เศรษฐโชค) มาตั้งแต่เด็ก จึงกลายเป็นคนจับจด รักสบาย และที่สำคัญใช้จ่ายเงินเป็นว่าเล่น จนกระทั่งพ่อบังเกิดเกล้ายังทนไม่ไหว ก็เลยจัดการดัดนิสัย ด้วยการไล่ให้ไปอยู่ที่คอนโด พร้อมทั้งระงับบัตรเครดิตทั้งหมด เพื่อสอนให้พัทธ์ ได้รู้จักทำงานหาเงินด้วยตนเอง พัทธ์เริ่มต้นยืนด้วยลำแข้งของตัวเอง ด้วยการรับงานเป็นอินทีเรีย ดีไซน์ ตามที่ร่ำเรียนมา โดยมี จั๊ดจ้า (จั๊ด-ภีมะ) เพื่อนซี้ คอยให้ความช่วยเหลือ และได้ลูกค้าคนแรกเป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ ที่ชื่อ เคธี่ (เป้ย-ปานวาด)

ทอย (แบงค์-อธิกิตติ์) หนุ่มสุดหล่อ ทายาทเพียงคนเดียวของ พิมประไพ แม่เลี้ยงเจ้าของไร่องุ่น (เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์) ด้วยความที่กำพร้าพ่อตั้งแต่เด็ก ทอยจึงได้รับการเลี้ยงดูจากพิมประไพ ผู้เป็นแม่อย่างใกล้ชิด ทอยจึงแลดูเป็นหนุ่มสุภาพ เรียบร้อย แถมแอบเก่งการบ้านการเรือนอีกต่างหาก เมื่อเรียนจบ พิมประไพ วางแผนให้ทอย ช่วยสานต่อกิจการไร่องุ่น แต่ทอย อยากที่จะลองหางานทำด้วยตนเองที่กรุงเทพฯ ก่อน พร้อมกับยกแม่น้ำทั้งห้ามาโน้มน้าวใจพิมประไพ จนในที่สุดผู้เป็นแม่ก็ยอมใจอ่อนแต่ก็มีข้อแม้ว่า เมื่อไปอยู่กรุงเทพฯ ต้องไปพักอยู่กับพัทธ์

พิน (โฟร์-ศกลรัตน์) สาวน้อยผู้มีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียน เมื่อเรียนจบ ก็ได้เริ่มต้นงานนักเขียนตามความฝัน ที่สำนักพิมพ์ของ นิวัตร (เอ็กซ์-ธิตินันท์) และได้รับการชักชวนจาก เป็ด ญาติผู้น้อง (ฟาง-วงเฟย์ ฟาง แก้ว) ซึ่งเป็นลูกเจ้าของธุรกิจคอนโดที่พัทธ์และทอยพัก ให้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน

เรื่องราวเริ่มโกลาหลขึ้น เมื่อพัทธ์กับทอย เข้าใจว่าพินและเป็ด เป็นคู่ทอมดี้ ในขณะที่พินกับเป็ดก็เข้าใจว่าสองหนุ่มสุดหล่อที่พักอยู่ห้องติดกัน เป็นคู่เกย์ แถมความอลหม่านล้านเจ็ดยังเข้ามาเยือนอีกระลอกใหญ่ เมื่อวันหนึ่งมีพัทธ์และทอย ต้องตกกระไดพลอยโจน รับหน้าที่ดูแลเด็กหลง หน้าแป้น ที่ชื่อหนมตาล ซึ่งบังเอิญมาประสบอุบัติเหตุอยู่หน้าคอนโด ทำให้ความจำหายไปชั่วคราว แต่อะไรไม่สำคัญเท่า หนมตาล ยืนยันว่าพัทธ์เป็นพ่อ เรียกว่างานรับทำเวปเข้าอย่างจังเลยทีเดียว !!!!

ทั้งพัทธ์ และทอย จำต้องรับหน้าที่ "คุณพ่อจอมเฟี้ยว" อย่างไม่มีทางเลือก โดยมี แม่พิน และ น้าเป็ด ช่วยด้วยอีกแรง โดยทั้ง 4 คน จะต้องช่วยกันตามหา และคลี่คลายปมปัญหาของครอบครัวที่น่าสงสารของเด็ก หนมตาล ให้ได้ แต่เรื่องไมได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะทั้ง 4 คน ต้องเผชิญหน้ากับบรรดาผู้ที่มาแอบอ้างเป็นพ่อแม่ของหนมตาลซ้ำแล้วซ้ำเล่า

พ่อแม่ตัวจริงของ หนมตาล เป็นใคร !!?ฮืม และความสัมพันธ์ของ 2 หนุ่ม กับ 2 สาว พัทธ์, ทอย, พิน และ เป็ด จะลงเอยยังไง !!!?ฮืม ติดตามเรื่องราวความสนุกสนาน และประทับใจเหล่านี้ได้ ในละคร "DADDY DUO คุณพ่อจอมเฟี้ยว" ทุกวันเสาร์- อาทิตย์ เวลา 20.40-21.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี เริ่ม 16 พ.ค. นี้

รายชื่อนักแสดง

รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ (ฟิล์ม) รับบท พัทธ์
อธิกิตติ์ พริ้งพร้อม (แบงค์ วงแบล็ค วานิลลา) รับบท ทอย
ศกลรัตน์ วรอุไร (โฟร์) รับบท พิน
ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ (ฟาง วงเฟย์ ฟาง แก้ว) รับบท เป็ด
ดช. สรรภวัต สุระเกรียงศักดิ์ (น้องเซน) รับบท หนมตาล
ปานวาด เหมมณี (เป้ย) รับบท เคธี่
ธีมะ กาญจนไพริน (จั๊ด) รับบท จั๊ดจ้า
ตฤณ เศรษฐโชค รับบท เจษฎา (พ่อของพัทธ์)
เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ รับบท พิมประไพ (แม่ของทอย)
ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์ รับบท นิวัตร
ปาจรีย์ ณ นคร รับบท ก๋ำ
แจ๊ส ชวนชื่น รับบทสกล


ขอขอบคุณข้อมูลจาก....rs

เรื่องย่อละคร พระจันทร์สีรุ้ง

บทประพันธ์ : วัตตรา
บทโทรทัศน์ : ปัทมาพร เคนผาพงษ์
กำกับการแสดง : ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ดำเนินงานสร้าง : บริษัท ละครไท จำกัด
นำ แสดงโดย : สุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, จินตหรา สุขพัฒน์, วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย, อัมราภัสร์ จุลกะเศียน
เวลาออกอากาศ : ทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางไทยทีสีช่อง 3 เริ่ม 3 มิถุนายน นี้

ชีวิตนางโชว์ของอารักษ์ (อ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง) ต้องจบลงด้วยวัยเพียง 35 อาจจะเร็วไปสักหน่อย แต่เพราะคลื่นลูกหลัง ที่มาแรงกว่า ทำให้เขารับไม่ได้ที่ จะต้องกลายไปเป็นแค่ตัวตลกคั่นรายการ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือ… เขากำลังมีลูกชาย

ตะวัน (บี้-สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว) เป็นลูกของ อรดี (แหม่ม-จินตหรา สุขพัฒน์) หมอนวดซึ่งเช่าบ้านอยู่ติดกับอารักษ์ หล่อนตั้งใจจะคลอดลูก แล้วทิ้งไว้ที่โรงพยาบาล เพื่อตามผัวใหม่ ชาวเยอรมันไปต่างประเทศ ด้วยความที่อารักษ์รัก และสงสารเด็กน้อย ที่ไม่มีใครต้องการ เหมือนชีวิตของตน ที่เคยระเห็จออกจากบ้าน เพราะพ่อซึ่งไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น จนประกาศตัดญาติขาดมิตร อารักษ์เลยได้มาใช้ชีวิต เป็นนางโชว์กับ ป้อ (ไก่-วรายุธ มิลินทจินดา) เพื่อนสนิทถึงพัทยา อารักษ์ได้ตัดสินใจที่จะขอตะวันมาเลี้ยงเป็นลูก ท่ามกลางเสียงคัดค้าน ของบรรดาเพื่อนชาวสีม่วงด้วยกัน โดยเฉพาะกับชัชชัย (ปัญญาพล เดชสงค์) แฟนหนุ่มที่กำลังคิดตีจาก ได้โอกาส เอาเรื่องเด็กน้อย มาอ้างเพื่อแยกทางกับ อารักษ์ ทำให้เขาเสียใจมาก ถึงกับคิดฆ่าตัวตาย แต่เพราะเสียงร้องของตะวันทำให้เขาได้ฉุกคิดว่าตนยังมีภาระ ที่สำคัญภาระยิ่งใหญ่ของคำว่า…พ่อ

อารักษ์ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนตัวเอง ทิ้งความเป็นเพศที่สาม แล้วย้ายตัวเองไปอยู่เชียงใหม่ ใช้เงินเก็บที่มีอยู่ เซ้งตึกแถวที่หน้าตลาดสดย่านชานเมือง เปิดเป็นร้านทำผมชื่อว่า "ตะวันซาลอน" มีบรรดาแม่ค้าแม่ขาย และชาวบ้านในละแวกนั้น แห่กันมาใช้บริการแทบทุกวัน เพราะความที่เจ้าของร้านเป็นคนอัธยาศัยดี แล้ววันหนึ่งอารักษ์ก็ได้ช่วยชีวิตแก้วตา (เต๋า-สโรชา วาทิตตพันธ์) จากการตามล่าของพวกค้าผู้หญิง ที่หลอกซื้อหญิงสาวจากพ่อแม่จะพาไปทำงานที่มาเลย์ หล่อนหลบหนี แล้วระหกระเหินมาจนถึงหน้าร้าน ด้วยความสงสารในเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เขาจึงให้ที่ซ่อน แล้วแจ้งตำรวจให้สกัดจับพวกค้าผู้หญิง จนสามารถช่วยชีวิตหญิงสาวได้อีกหลายคน แก้วตาระลึกในบุญคุณของอารักษ์ จึงขออยู่ช่วยงานที่ร้าน และอาสาที่จะช่วยดูแลตะวันอีกแรง

ถึงแม้ว่าอารักษ์จะพยายามบอกและแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนเป็นผู้ชาย โดยเฉพาะกับตะวัน แต่กิริยาที่สุภาพ นิ่มนวล ก็ทำให้ทุกคนดูออกว่าเขาไม่ใช่ชายแท้ ทำให้อารักษ์ไม่สบายใจ เกรงว่าลูกชายจะมีปมด้อย จนเมื่อตะวันโตถึงวัยเข้าเรียน เขาเป็นเด็กฉลาด และหน้าตาดี จึงมีแต่คนรักใคร่ บรรดาลูกค้าที่มาทำผมก็มักจะหยอกเอิน ให้ช่วยหยิบจับ ทำนั่นทำนี่ให้ จนอารักษ์ต้องคอยสั่งห้าม สร้างความสงสัยให้กับเด็กน้อย จนต้องแอบมาบ่นให้แก้วตาฟัง หญิงสาวซึ่งใช้ชีวิตร่วมกับสองพ่อลูกมานาน รู้ดีว่าอารักษ์คิดอะไร หล่อนซึ่งแรกๆ ก็เคยแอบชอบชายหนุ่ม แต่พอรู้ว่าเขาไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย ก็ได้แต่ทำใจยอมรับ และช่วยเขาปิดบังความจริงกับเด็กน้อย

วิถีชีวิตของตะวันเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเข้าโรงเรียน เขามักจะถูกเพื่อนๆ ล้อเรื่องพ่อเป็นกะเทยจนมีเรื่องชกต่อยกันเป็นประจำ เด็กน้อยซึ่งถูกพ่อสอนให้เป็นคนรักสันติ มักจะมาบ่นให้ผู้เป็นพ่อฟังอยู่เสมอทุกครั้งที่มีปัญหา เขาชอบนอนหนุนตัก ให้พ่อเล่านิทานให้ฟังใต้แสงจันทร์

แต่แล้วเมื่อตะวันอายุสิบขวบ ได้เรียนรู้โลกกว้างมากขึ้น จนพอจะรับรู้เห็นความผิดปกติของอารักษ์ที่ไม่เหมือนพ่อของเพื่อนๆ ถึงแม้อารักษ์จะพยายามปิดบังอย่างไร แต่ความลับก็ไม่เป็นความลับอีกต่อไป เมื่อป้อนำบรรดาเพื่อนเก่าร่วมคณะนางโชว์มาเยี่ยมเยือน ภาพพ่อที่ทำตัวกรี๊ดกร๊าดสนิทสนมกับแขกแปลกหน้ากลุ่มใหญ่ ทำให้ตะวันแน่ใจในสิ่งที่เขากลัว ความจริงที่เด็กน้อยพยายามหลอกตัวเองเรื่องพ่อนั้นเป็นเรื่องจริง

ตะวันเสียใจจนถึงขั้นหนีออกจากบ้านไปขอพักกับครูชนะ (เอ็กซ์-ธิตินันท์ สุวรรณศักดิ์) ครูพละที่สนิทที่สุด ขณะนั้นอารักษ์และบรรดาเพื่อนๆ พยายามตามหาด้วยความเป็นห่วงถึงกับไปแจ้งความ ระหว่างที่ตะวันอยู่กับชนะนั้น ครูหนุ่มก็พยายามกล่อมจนเด็กน้อยเริ่มอ่อนลง และเข้าใจโลกมากขึ้น ยิ่งเห็นใครต่อใครวิ่งวุ่นตามหาตน โดยเฉพาะพ่อที่ถึงกับถูกรถชนก็ทำให้เด็กน้อยได้คิด และยอมที่จะกลับไปอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง อารักษ์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ตะวันฟังโดยไม่ปิดบัง เว้นแต่เรื่องอาชีพของแม่เด็กน้อย เพื่อให้ตะวันยังมีภาพแม่ที่แสนดีไว้ในใจ

ถึงแม้ความจริงจะเปิดเผย แต่อารักษ์ก็ยังคงทำตัวปกติ เพื่อรักษาหน้าลูกชาย เขาจัดการย้ายโรงเรียน และให้แก้วตาออกหน้า เป็นผู้ปกครองแทนตน เพื่อไม่ให้ตะวันต้องเป็นขี้ปากของใคร จนเมื่อเวลาผ่านไป ตะวันโตขึ้น และสามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพได้ ชายหนุ่มต้องแยกจากครอบครัวอันเป็นที่รักมาเช่าอยู่หอพักตามลำพัง โดยที่ทั้งสองพ่อลูก ก็ยังคงติดต่อถามไถ่กันทางโทรศัพท์แทบทุกวัน

ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยทำให้ตะวันได้รู้จักกับ ปลายฟ้า (แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ) นักศึกษาต่างคณะ ลูกสาวคนสวยของสถาพร (ถา-สถาพร นาควิลัย) นายตำรวจใหญ่ หญิงสาวเป็นดาวของมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับตะวัน ที่ถูกเลือกให้เป็นเดือน ในงานกีฬาประเพณีของสถาบัน ทำให้ทั้งสองต้องทำกิจกรรมร่วมกัน ยิ่งทำให้ตะวันรู้สึกชื่นชม ในความน่ารัก และพยายามจะผูกมิตร ด้วยแต่ปลายฟ้ากลับไม่สน แต่นั่นก็ยิ่งทำให้ตะวันตกหลุมรักเธอมากขึ้นไปอีก โดยมองข้ามเกยูร (ปีใหม่-สุมนรัตน์ วัฒนาเศลารัตน์) เพื่อนสาวที่แอบชอบตนอยู่

ตลอดเวลาสี่ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ตะวันได้เพียรเฝ้าติดตามความเป็นไปของปลายฟ้าด้วยความรัก จนรู้ว่าเธอชอบทำอะไรที่ไหน รวมทั้งรู้ว่าเธอมีคนรักอยู่แล้ว แต่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์และคำแนะนำของผู้เป็นพ่อซึ่งเป็นที่ปรึกษาตลอด เวลา ตะวันจึงแอบส่งดอกไม้และข้อความซึ้งๆ ให้เธอที่คณะทุกวัน จนหญิงสาวรู้สึกแปลกใจพยายามจะหาตัวเจ้าของดอกไม้ให้ได้ แต่ก็มีเหตุให้ต้องคลาดกันเสมอ

แล้วในที่สุดตะวันก็มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับปลายฟ้ายิ่งขึ้น เมื่อเขาตัดสินใจไปคัดเลือกตัวแสดงละครเวทีของมหาวิทยาลัย และผ่านการทดสอบได้รับบทนำคู่กับหญิงสาว ตลอดการซ้อมตะวันพยายามเอาใจปลายฟ้าจนเธอรู้สึกอึดอัด หญิงสาวพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวที่บ้านรวมทั้งตะวัน ทำให้ชายหนุ่มพบว่าช่องว่างระหว่างเขากับเธอนั้นมีมากกว่าที่คิด เมื่อหญิงสาวมีฐานะต่างกับเขามาก แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขายอมแพ้ ตะวันตัดสินใจที่จะไปทำงานเป็นเด็กรับรถให้ผับชื่อดังแห่งหนึ่ง เพียงเพื่อจะหาเงินพาหญิงสาวไปทานอาหารหรูๆสักมื้อหนึ่งพร้อมกับบอกความในใจ ที่เก็บไว้ตลอดสี่ปี และที่นั่นทำให้เขาได้ช่วย ภัครินทร์ (นุ่น-สินิทรา บุญยศักดิ์) ฝ่ายดูแลศิลปินของ "เลิฟลี่ เรคคอร์ด" จากโจรวิ่งราว ภัครินทร์เห็นหน่วยก้านของตะวัน จึงชวนไปลองเทสต์เสียงดู แต่ชายหนุ่มปฏิเสธ

ตะวันมีโอกาสได้พบกับครอบครัวของปลายฟ้าในวันแสดงละครเวที ชายหนุ่มรู้สึกชื่นชมในบุคลิกของสถาพร และดารณี (ไก่-สุปราณี เจริญผล) พ่อแม่ของหญิงสาว และในระหว่างการแสดงตะวันก็เผลอใจไปจูบปลายฟ้านอกบท สร้างความขัดเคืองให้หญิงสาว จนไม่ยอมพบหน้าด้วย ตะวันกลุ้มใจจึงได้แต่โทรไปปรับทุกข์กับผู้เป็นพ่อ อารักษ์จึงแนะนำให้ลูกชายไปขอโทษหญิงสาว

ในงานวันเกิดของปลายฟ้าที่ถูกจัดขึ้นที่บ้านของหญิงสาว ตะวันอาศัยเกยูรให้พาเข้างาน เขาให้ของขวัญ และออกไปร้องเพลงขอโทษตามที่อารักษ์สอนไว้จนปลายฟ้าเริ่มจะอ่อนลง ยอมรับคำขอโทษจากชายหนุ่ม พร้อมทั้งแนะนำศศิน (เอส-วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย) ชายคนรักที่เป็นลูกชายของศักดา (อาเชาว์-สุเชาว์ พงษ์วิไล) นักการเมืองใหญ่ให้ตะวันได้รู้จัก ทำให้ชายหนุ่มเสียใจ และเลี่ยงออกไปจากงาน ภัครินทร์ที่มาร่วมงานเพราะเป็นญาติผู้พี่กับปลายฟ้า นำวีดีโอภาพและเสียงของตะวันมาให้พบโชค (ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์) เจ้าของค่ายเพลงดังฟัง ตะวันจึงถูกเรียกให้เข้าไปพบ และกล่อมให้เป็นศิลปินเบอร์ใหม่ของเลิฟลี่เรคคอร์ด

ตะวันดีใจโทรไปแจ้งข่าวดีกับพ่อ แต่อารักษ์กลับเป็นห่วง กลัวว่าเมื่อตะวันดังแล้วจะลืมพ่อกะเทยคนนี้ แต่ชายหนุ่มรับปากว่าไม่มีทางเป็นเช่นนั้น เขาตั้งใจจะหาเงินมากๆ เพื่อเก็บไว้ซื้อบ้านอิงดอยให้พ่ออยู่กับเขาตอนแก่ อารักษ์ได้แต่ย้ำลูกชายให้ปิดเรื่องของตนเอาไว้ เพราะกลัวจะเสื่อมเสียชื่อเสียง

ตะวันตัดสินใจดร็อปการเรียนเอาไว้ชั่วคราว ในเทอมสุดท้าย ในขณะที่เพื่อนร่วมรุ่น รวมทั้งปลายฟ้านั้นจบการศึกษากันในหมด ชายหนุ่มถูกจับเปลี่ยนลุคใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า และเปิดตัวด้วยการถ่ายแบบ เพื่อสร้างความนิยม ก่อนที่จะผันตัวเองมาเป็นนักร้อง

ตะวันเริ่มกลายเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาวๆ มาให้ความสนใจ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงไม่สามารถเข้าใกล้ปลายฟ้าได้มากกว่าความเป็นเพื่อน จนเมื่อเขาได้พบศศินควงสิริกานดา (มิ้ม-อัมราภัสร์ จุลกะเศียน) ดาราน้องใหม่ไปร่วมงานวันเกิดของนิตยสารบันเทิงฉบับหนึ่ง จึงพยายามที่จะหาทางเตือนปลายฟ้า แต่หญิงสาวกลับไม่เชื่อ เธอถึงขั้นไปสอบถามความจริงจากชายคนรัก แต่กลับพบว่าศศินกำลังอยู่กับสิริกานดาจริง ปลายฟ้าจึงประกาศตัดความสัมพันธ์กับศศิน ช่วงนี้เองที่ตะวันได้มีโอกาสเข้ามาแสดงความจริงใจที่มีต่อปลายฟ้า เขาเฝ้าปลอบ และเล่านิทานพระจันทร์ที่พ่อเคยเล่าให้เธอฟัง จนปลายฟ้ารู้สึกเข้มแข็ง และเปิดใจยอมรับชายหนุ่มมากขึ้น จนถึงขั้นเป็นความรักเมื่อชายหนุ่มสารภาพว่า เขาเป็นเจ้าของดอกไม้ที่ส่งให้ตลอดเวลาสี่ปี

ในที่สุดผลงานชิ้นแรกของการเป็นศิลปินของตะวันก็ออกสู่สาธารณชน เขากลายเป็นนักร้องหน้าใหม่ที่น่าจับตามอง ในขณะที่งานเพลงกำลังไปด้วยดี ความสัมพันธ์ของเขากับปลายฟ้าก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะเป็นช่วงเวลาที่คบหาเพียงไม่นาน แต่ทั้งสองก็ผูกพันและเข้าใจในกันและกันมาก แต่ก็ต้องพยายามปิดบัง คอยหลบนักข่าวตามคำแนะนำและขอร้องของภัครินทร์

แต่แล้วช่วงเวลาที่สวยงามของตะวันก็สะดุดลง เมื่อชายหนุ่มได้พบกับอรดี แม่ซึ่งทิ้งเขาไป หลังจากที่ตามสามีใหม่ไปใช้ชีวิตในเยอรมันได้ยี่สิบปี พอสามีตายอรดีก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนใหญ่ จึงบินกลับมาเมืองไทย ตั้งใจลงทุนทำธุรกิจเอาเงินไปลงหุ้นกับวิมล (ดี้-ชนานา นุตาคม) เพื่อนเก่าร่วมอาชีพเปิดบริษัทผลิตเครื่องสำอาง แต่เกิดไปสะดุดใจกับชื่อและนามสกุลของนักร้องหน้าใหม่ที่ชื่อตะวัน จึงสืบจนรู้ว่าเป็นลูกชายตนที่ยกให้อารักษ์ไป เธอจึงมาแสดงตัวให้ตะวันได้รู้จัก เพื่อหวังว่าความดังของลูกชายจะช่วยทำให้ธุรกิจของเธอก้าวหน้า แต่ตะวันกลับปฏิเสธที่จะยอมรับ เมื่อแม่ที่ตนวาดฝันไว้ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด อรดีทั้งปากร้าย แต่งตัวจัดจ้าน ไม่ใช่นางฟ้าอย่างที่พ่อเคยบอก อีกทั้งความรักที่เขามีต่อปลายฟ้าก็เริ่มมีปัญหา เมื่อศศินย้อนกลับมาขอคืนดีกับหญิงสาวอีกครั้ง

ศศินรู้ว่าปลายฟ้ามีใจให้กับตะวัน เขาจึงแสร้งทำดี ใช้ความเป็นสุภาพบุรุษทำให้ปลายฟ้าตายใจ ในการยอมรับเขาเป็นเพื่อน แต่ชายหนุ่มกลับสร้างสถานการณ์โดยหลอกใช้เกยูร หาโอกาสให้หล่อนได้ใกล้ชิดกับนักร้องหนุ่ม และเป่าหูจนปลายฟ้ารู้สึกแคลงใจ ขณะเดียวกันศศินก็พยายามทำดีกับปลายฟ้าเพื่อให้ตะวันได้เห็น จนนักร้องหนุ่มซึ่งกำลังว้าวุ่น ขาดความยับยั้งชั่งใจต่อว่าปลายฟ้าว่ากำลังจะหวนกลับไปคบหาศศิน ทำให้หญิงสาวเสียใจ และต่อว่าชายหนุ่มไปอย่างแรง ก่อนจะหลบหน้าผู้คน หนีปัญหาไปพักผ่อนที่ภูเก็ต โดยตัดขาดการสื่อสารทุกชนิด

ตะวันเสียใจเรื่องปลายฟ้า และสับสนเรื่องอรดี จึงคิดหนีปัญหาวุ่นวายกลับไปหาพ่อ แต่ระหว่างทางเกิดประสบอุบัติเหตุรถตกเขา นักร้องหนุ่มถูกส่งมารักษาตัวที่กรุงเทพ แพทย์สามารถช่วยชีวิตเขาได้สำเร็จ แต่เพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อชายหนุ่มรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปทั้งหมด จึงเป็นโอกาสของอรดีที่อ้างหลักฐานจากทางโรงพยาบาลที่ทำคลอด และพยานบุคคลยืนยันกับหนังสือพิมพ์ จนตะวันต้องยอมรับอรดีเป็นแม่ โดยที่จิตใต้สำนึกลึกๆ ของเขากลับไม่มั่นใจ

ข่าวร้ายของตะวันทำให้อารักษ์รีบลงมาดูอาการลูกชาย พร้อมกับแก้วตาและครูชนะซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นคู่รักกัน แต่เขากลับพบอรดี และถูกกีดกันไม่ให้เห็นหน้าตะวัน โดยขู่ว่าความเป็นเพศที่สามของอารักษ์จะทำให้ลูกเสียชื่อเสียง อารักษ์ต้องคิดหนัก แอบเข้าไปพบลูกชาย แล้วก็พบว่าตะวันจำเขาไม่ได้ และยังแสดงท่าทางรังเกียจเมื่อเห็นหน้าเขา โดยไม่รู้เลยว่าลูกชายได้ถูกผู้เป็นแม่เป่าหูว่า อารักษ์เป็นพวกโรคจิตที่คลั่งศิลปินหนุ่มๆ หนุ่มใหญ่รู้สึกเจ็บปวด และยอมหลีกทางให้อรดีดูแลตะวัน เขาเลือกเป็นความทรงจำที่หายไป เพื่อให้ลูกชายได้มีอนาคตที่สดใส อารักษ์จึงพาแก้วตากับครูชนะกลับเชียงใหม่โดยไม่ยอมบอกความจริงให้ทั้งสอง เข้าใจ

ตลอดเวลาที่ตะวันอยู่โรงพยาบาล เกยูรมาคอยดูแลชายหนุ่มด้วยความรัก หญิงสาวจึงรู้เห็นสิ่งที่อรดีพยายามจะปิดบังตะวันเรื่องอารักษ์เข้าโดย บังเอิญ อรดีกลัวว่าหญิงสาวจะเปิดเผยความจริง จึงยื่นข้อเสนอให้เธอเก็บความลับนี้ไว้ แลกกับการสนับสนุนให้เธอได้รักกับตะวัน และจัดการทำลายข้าวของที่เกี่ยวกับปลายฟ้าของตะวันจนหมดสิ้น เพื่อให้เกยูรวางใจจนยอมรับปาก

ปลายฟ้าได้รู้ข่าวของตะวัน เธอก็รีบรุดขึ้นมาเยี่ยมชายคนรัก แต่กลับพบว่าตะวันคนใหม่นี้ ไม่เหมือนคนเดิมที่รู้จัก เมื่อชายหนุ่มเปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนสุภาพ ก็กลายเป็นคนก้าวร้าว เย่อหยิ่ง และเอาแต่ใจ นอกจากนั้นยังพบเกยูรแสดงตัวว่าเป็นคนรักของชายหนุ่มอีก ก็ยิ่งทำให้ปลายฟ้าเสียใจ ช่วงเวลานี้ศศินก็แทรกเข้ามาทำตัวเป็นที่ปรึกษาให้หญิงสาวในฐานะพี่ชายที่ แสนดี

ด้วยความกลัวว่าปลายฟ้าจะหวนกลับไปหาตะวันอีก ศศินจึงคิดขัดขวางคนทั้งสอง ชายหนุ่มซึ่งกว้างขวางด้วยบารมีของผู้เป็นพ่อ รู้ว่าธุรกิจของอรดีที่ร่วมหุ้นกับเพื่อนกำลังมีปัญหา เมื่อวิมลเชิดเงินหนีไป และทิ้งหนี้สินไว้ให้อรดีรับผิดชอบ ศศินจึงทำเป็นยื่นมือเข้าช่วยเหลือ และเข้ามาเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนทำธุรกิจด้วย โดยมีข้อเสนอให้สาวใหญ่ช่วยขัดขวางไม่ให้ตะวันได้หวนกลับมาคบหากับปลายฟ้า

ตะวันเริ่มสับสน และรู้สึกขัดตากับสิ่งรอบตัวไปหมด เขาไม่คุ้นเคยกับสิ่งที่อรดีพยายามจะยัดเยียดใส่หัวเขาเกี่ยวกับเรื่องใน อดีต แต่ชายหนุ่มกลับไม่พบหลักฐานใดๆ ในบ้าน ที่ยืนยันว่าเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับอรดีเลยสักชิ้น อรดีพยายามสร้างภาพแม่ลูกที่รักกันให้ใครๆ ได้เห็น ทำให้เธอเป็นที่รู้จัก และส่งผลให้กิจการเครื่องสำอางกระเตื้องขึ้น โดยความช่วยเหลือของศศินที่เข้าไปดูแลด้านการตลาดให้อีกแรง

ปลายฟ้าซึ่งยังรักตะวัน ตั้งใจจะทำให้เขาฟื้นคืนความทรงจำได้อีกครั้ง แต่อรดีกลับปฏิเสธความหวังดี หญิงสาวจึงได้แต่ไปปรับทุกข์กับศศิน เพราะคิดว่าชายหนุ่มเข้าใจ ศศินจึงถือโอกาสขอคืนดีอีกครั้ง แต่ปลายฟ้าปฏิเสธเพราะหัวใจของเธอมอบให้ตะวันไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มจึงแสร้งยอมรับความจริง และเปิดทางให้หญิงสาวได้ช่วยเหลือตะวันเต็มที่ สร้างความรู้สึกที่ดีให้ปลายฟ้า แต่เขากลับไปกำชับให้อรดีทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ปลายฟ้าได้มีโอกาสพบกับตะวันตามลำพัง

ปลายฟ้าตั้งใจจะเอารูปถ่ายของเขาและเธอมาพิสูจน์ความจริงกับตะวัน แต่กลับถูกเกยูรซึ่งอรดีให้มาช่วยดูแลตะวันขัดขวาง ชายหนุ่มเริ่มสะกิดใจนึกสงสัยในท่าทีของปลายฟ้า อรดีจึงตัดสินใจเปิดตัวเกยูรกับสื่อต่างๆ ว่าเป็นคู่รักของตะวัน เพื่อให้ปลายฟ้าตัดใจ ซึ่งก็ได้ผล หญิงสาวเสียใจจนคิดว่าหมดหวัง จึงได้แต่ขอร้องศศินให้ช่วย ศศินจึงจำเป็นต้องให้อรดีนัดตะวันออกมาให้ปลายฟ้า ในขณะที่เขากลับเรียกนักข่าวให้มา ทำให้นักร้องหนุ่มซึ่งกลัวเป็นข่าว เข้าใจว่าปลายฟ้าคิดจะใช้สื่อเพื่อจะจับเขา จึงพาลโกรธไม่ยอมฟังคำอธิบายใดๆ จากปลายฟ้า






หลังจากกลับมาเชียงใหม่ อารักษ์ก็ยังคงติดตามข่าวคราวของตะวันโดยตลอด แก้วตาตัดสินใจแต่งงานกับครูชนะ ทั้งสองส่งการ์ดเชิญให้ตะวันมาร่วมงาน แต่กลับถูกอรดีเก็บไว้ ทำให้บรรดาคนรู้จักที่เชียงใหม่เข้าใจว่าชายหนุ่มลืมตัว อารักษ์ต้องช่วยแก้ต่าง ทั้งที่ใจก็หวังจะได้พบหน้าลูกชายอีกสักครั้ง กิจการตะวันซาลอนเริ่มมีปัญหา เมื่อมีร้านเสริมสวยที่ใหญ่กว่าและทันสมัยกว่าเข้ามาในตลาด สุขภาพที่เริ่มจะทรุดโทรม ความเคร่งเครียด และความเป็นห่วงลูกชาย ทำให้อารักษ์หน้ามืดบ่อยขึ้น เมื่อไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์จึงเลือกที่จะปิดทุกคนเพื่อความสบายใจ นอกจากปรีดาเพื่อนสนิท และประกาศขายร้าน เพื่อย้ายไปอยู่กรุงเทพ จะได้ดูความเป็นไปของลูกชาย โดยหลอกทุกคนว่าจะไปอยู่กับตะวัน

ปรีดาซึ่งกลายเป็นเจ้าของบาร์เบียร์ที่พัทยาเป็นห่วงเพื่อน จึงทิ้งงานขึ้นมาเยี่ยมอารักษ์ที่กรุงเทพพร้อมกับเจสัน ฝรั่งซึ่งทั้งสองเคยช่วยชีวิตจากโจร ตอนมาทำธุรกิจที่พัทยาใหม่ๆ เจสันกำลังจะกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่บ้านเกิด เขามอบเงินให้อารักษ์ไว้ก้อนหนึ่ง เพื่อใช้รักษาตัว แต่อารักษ์เลือกที่จะนำเงินก้อนนั้นเก็บไว้ไปซื้อบ้านอิงดอย บ้านในฝันของสองพ่อลูก โดยให้แก้วตาช่วยดูแล และโกหกทุกคนว่าเป็นเงินที่ตะวันฝากมา

อารักษ์ไปสมัครเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยฝ่ายดูแลเสื้อผ้าให้ศิลปินที่บริษัท เลิฟลี่เรคคอร์ด โดยอาศัยเพื่อนเก่าๆที่เคยเป็นนางโชว์ด้วยกันมาก่อนแนะนำ ทำให้เขามีโอกาสได้พบกับลูกชายอีกครั้ง แต่ตะวันก็จำหน้าเขาได้ว่าเคยพบที่โรงพยาบาล จึงไม่ค่อยถูกชะตา เพราะคิดว่าอารักษ์เป็นกะเทยที่แอบปลื้มตนตามที่แม่เคยย้ำไว้ สร้างความน้อยใจให้กับอารักษ์เป็นอย่างมาก แต่เขาก็ต้องอดทน เพียงเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดลูกชาย

อรดีต้องการให้ตะวันถ่ายโฆษณาเครื่องสำอางสำหรับผู้ชายของบริษัทตน ศศินเห็นโอกาสที่จะทำให้ปลายฟ้าตัดใจจากตะวันได้เด็ดขาด จึงสนับสนุนให้ตะวันเลือกปลายฟ้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ร่วม สร้างความไม่พอใจให้สิริกานดาที่ถูกคาดหมายว่าจะได้งานนี้ การถ่ายทำไม่ค่อยจะราบรื่นนัก เมื่อปลายฟ้ารู้สึกว่าตะวันเปลี่ยนไปไม่เหมือนก่อน เขาทั้งหยิ่ง และเรื่องมากจนเธอเสียความรู้สึก จึงพยายามเลี่ยงที่จะพูดคุยกับเขา แต่กลับยิ่งเป็นการท้าทายตะวัน เขาเอ่ยชวนเธอไปเที่ยวทำราวกับปลายฟ้าใจง่าย เธอจึงปฏิเสธทั้งพูดจาดูถูก จนชายหนุ่มนึกโกรธต้องการเอาชนะ อารักษ์ซึ่งต้องมาช่วยดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในเหตุการณ์เห็นความบาดหมางของ ทั้งสอง ก็ได้แต่เตือนสติลูกชาย แต่ตะวันไม่ยอมฟัง และพาลต่อว่าจนอารักษ์ต้องเลี่ยงหลบไปร้องไห้ สร้างความสงสัยให้กับปลายฟ้าในท่าทีที่เขามีต่อตะวัน

ศศินพยายามจะให้ปลายฟ้าเห็นข้อเสียของตะวันยิ่งขึ้นจะได้ตัดใจเสียที เขากล่อมจนสิริกานดายอมร่วมมือยั่วยวนตะวันจนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง เพื่อให้ปลายฟ้าเข้าใจผิดตะวันมากขึ้น และก็ได้ผลเมื่อหญิงสาวซึ่งกำลังมีปัญหาครอบครัว เมื่อผู้เป็นพ่อพัวพันกับคดีทุจริตในราชการเสียใจ และยอมเปิดใจที่จะให้ศศินพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

ข่าวเสียหายของตะวันมีมากขึ้น จนถูกพบโชค คาดโทษจะฉีกสัญญา ทำให้ตะวันยิ่งเครียดหนัก อีกทั้งปัญหาหนี้พนันก้อนใหญ่ของอรดี ที่เกิดจากการถูกศศินหลอกให้ไปเที่ยวที่บ่อนแห่งหนึ่ง ทำให้ตะวันต้องหาเงินก้อนใหญ่เพื่อมาช่วยเหลือกิจการ ศศินจึงอาศัยโอกาสนี้ยื่นมือเข้าซื้อหุ้นของอรดีทั้งหมด และครอบครองธุรกิจแต่เพียงผู้เดียว โดยยังแสร้งทำเป็นดียินยอมให้อรดีดูแลกิจการตามปกติ

ทั้งข่าวสิริกานดา และหนี้พนันของอรดี ทำให้ชื่อเสียงของตะวันเริ่มมีปัญหามากขึ้น ตะวันต้องสร้างภาพทำตัวเป็นคนใหม่ ด้วยการใกล้ชิดเกยูรให้มากขึ้น เพื่อกลบข่าวฉาวกับสิริกานดา นั่นจึงทำให้ปลายฟ้าตัดสินใจเด็ดขาดที่จะล้มเลิกความตั้งใจช่วยชายหนุ่มให้ คืนความทรงจำ เธอส่งดอกไม้ที่เขาเคยให้มาตลอดสี่ปีคืน จนชายหนุ่มรู้สึกสะกิดใจ เขาเริ่มที่จะจำอะไรได้บ้างลางๆ แวะไปที่ร้านอาหารซึ่งเคยมากับปลายฟ้าเป็นประจำ ฟังเพลงที่หญิงสาวชอบ แต่ก็มักจะถูกเกยูรและอรดีขัดขวาง ดึงให้เขาเลิกคิดที่จะสนใจเรื่องในอดีตอีก ช่วงเวลานั้นเองปลายฟ้าก็ตัดสินใจรับปากแต่งงานกับศศิน เพื่อให้พ่อของเขาช่วยเหลือพ่อของตนให้หลุดพ้นข้อกล่าวหาพัวพันเรื่องทุจริต ทำให้เธอค่อยๆ หายไปจากชีวิตของตะวัน

อารักษ์ซึ่งทำงานฝ่ายเสื้อผ้าก็ได้รับรู้เรื่องราวของลูกชายมาตลอดทั้งจาก เพื่อนร่วมงาน และข่าวต่างๆ เขายังคงพยายามที่จะหาโอกาสคอยเตือนตะวัน เกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยความเป็นห่วง จนชายหนุ่มไม่พอใจ ก็มักจะพาลระเบิดอารมณ์ใส่ แต่อารักษ์ก็ยังทนนิ่ง และพยายามอดกลั้นความน้อยใจ อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกชายได้มีเขาเป็นที่ระบายความอึดอัดในใจ ตะวันเองนั้นก็เริ่มรู้สึกคุ้นกับสิ่งที่อารักษ์พยายามสั่งสอน แต่ก็ยังคงคิดระแวงในความหวังดีของอารักษ์

อาการป่วยของอารักษ์เริ่มหนักขึ้นจนถึงกับเป็นลมในที่ทำงาน หมอที่ตรวจอาการอยากให้เขารีบผ่าตัด แต่อารักษ์กลับประวิงเวลาไว้ด้วยความกลัวว่าจะไม่ได้พบหน้าลูกชายอีก แต่อาการที่กำเริบมากจนเขารู้สึกท้อแท้ อารักษ์รู้ดีว่าปลายฟ้าคือผู้หญิงที่ตะวันรัก จึงไปขอร้องให้หญิงสาวช่วยปลอบใจตะวัน จนปลายฟ้าซึ่งยังตัดใจจากชายหนุ่มไม่ขาดยินยอมที่จะไปพบตะวันอีกครั้ง ชายหนุ่มคิดพิสูจน์ว่าเธอเป็นคนรักของเขาจริงหรือไม่ เขาขอให้เธอพาไปทุกๆ ที่ ซึ่งเธอและเขาเคยไปด้วยกัน ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกคุ้นและพอที่จะจำอะไรได้บ้าง แต่สุดท้ายเขากลับเลี้ยวรถพาเธอเข้าโรงแรม ปลายฟ้าผิดหวังในการกระทำของตะวัน ต่อว่าและตบหน้าเขาอย่างแรงก่อนจะหนีออกไปพบกับอารักษ์ซึ่งคอยตามติดลูกชาย ทุกฝีก้าวช่วยพาเธอหลบไปได้

ปลายฟ้าสอบถามความจริงว่าอารักษ์เป็นใคร แต่เขากลับบ่ายเบี่ยง จนปลายฟ้ายิ่งสงสัย แต่ก็แน่ใจว่าอารักษ์เป็นคนดี จึงไว้วางใจที่จะเล่าเรื่องราวที่บ้านให้หนุ่มใหญ่ฟังเพื่อเป็นการระบายความ อัดอั้น อารักษ์จึงแนะนำ และเล่านิทานปลอบใจจนหญิงสาวรู้สึกสบายใจขึ้น นั่นก็ยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าอารักษ์ต้องมีความเกี่ยวข้องกับตะวันอย่างแน่ นอน

ศศินไม่พอใจเมื่อรู้ว่าตะวันพยายามจะติดต่อกับปลายฟ้า เขาบังคับให้อรดีจัดการ สาวใหญ่จึงคิดจะให้ลูกชายหมั้นหมายกับเกยูร แต่ตะวันไม่ยอมเพราะชายหนุ่มเริ่มรู้ใจตัวเองว่าไม่ได้รักเกยูร จึงนัดหญิงสาวออกมาเพื่อบอกความจริง เกยูรรู้สึกอับอายและเสียใจจนถึงขั้นกรีดข้อมือฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทันเวลา แต่ข่าวของเธอทำให้ชื่อเสียงความเป็นนักร้องของตะวันต้องมัวหมองอีกครั้ง

ตะวันกลุ้มใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์สามเส้าระหว่างเขา เกยูร และปลายฟ้า อารักษ์ก็หาโอกาสให้คำแนะนำชายหนุ่มให้ทำตามหัวใจของตัวเอง ตะวันเริ่มมองอารักษ์ในมุมที่ดีขึ้น และยิ่งคุ้นกับคำสอน ท่าทางของอารักษ์ เหมือนว่าความทรงจำจะกลับคืนมา แต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจมากไปกว่าเรื่องราวความรักในตอนนี้ ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะบอกรักปลายฟ้า ทั้งที่รู้ว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับศศิน ทำให้ปลายฟ้าสับสนระหว่างหัวใจกับความถูกต้อง

อรดีกลุ้มใจที่กล่อมลูกชายไม่สำเร็จ ศศินขู่จะขายกิจการทิ้ง ทำให้อรดียิ่งเครียดหนัก ตามติดลูกชาย จนพบว่าอารักษ์นั้นอยู่ใกล้ชิดตะวันตลอดเวลา และคอยส่งเสริมให้ตะวันกลับไปรักปลายฟ้า เธอจึงกลัวว่าทุกอย่างจะเปิดเผย จึงขู่อารักษ์และคิดให้เงินปิดปาก แต่อารักษ์ไม่ยอมรับ เพราะรู้ตัวว่าตนคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน อรดีจึงเล่าความจริงให้ศศินฟัง และจ้างนักเลงไปเล่นงานจนอารักษ์ต้องเข้าโรงพยาบาล

ปลายฟ้าไปเยี่ยมอารักษ์ที่โรงพยาบาล และพบว่าเขาเป็นเนื้องอกในสมอง อารักษ์ขอร้องให้ปลายฟ้าช่วยทำให้ตะวันกลับเป็นคนอ่อนโยนเหมือนเดิม และยอมเปิดเผยความจริงทั้งหมดให้หญิงสาวฟัง แต่เขากลับขอร้องให้เธอเก็บความลับเรื่องเขาเป็นพ่อไว้ เพื่ออนาคตของลูกชาย ปลายฟ้าตรงไปหาตะวัน และขอร้องให้ตะวันไปเยี่ยมอารักษ์บ้าง ตะวันพยายามจะขอความรักจากปลายฟ้า แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่อยากทำให้ศศินเสียใจ ตะวันจึงได้ตำหนิตัวเอง อารักษ์จึงพยายามจะหาทางปลอบ แต่ชายหนุ่มกลับพาลว่าเป็นความผิดของอารักษ์ และให้ภัครินทร์ไล่อารักษ์ออกจากงานโดยไม่ยอมฟังคำอ้อนวอนร้องขอของอารักษ์ หนุ่มใหญ่จึงต้องเก็บเสื้อผ้ากลับเชียงใหม่ด้วยความเสียใจ แต่อาการของโรคกำเริบขึ้นระหว่างเดินทางเสียก่อน

ศศินคิดหาวิธีกำจัดตะวันออกจากชีวิตปลายฟ้าได้เด็ดขาด เขาปล่อยข่าวเรื่องอารักษ์เป็นพ่อของตะวันให้หนังสือพิมพ์รู้ จนตะวันสับสนเมื่อเขากลายเป็นคนเนรคุณพ่อซึ่งเขาจำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มยิ่งเครียดจัดเมื่อแวะไปดูอาการอารักษ์ที่โรงพยาบาล แล้วพบกับแก้วตากับครูชนะที่รีบลงมาจากเชียงใหม่หลังจากรู้เรื่องราวทั้งหมด จากปลายฟ้าที่ติดต่อไปเพื่อหวังให้อารักษ์ได้มีญาติมาดูแล แก้วตาตรงเข้าไปตบหน้าตะวันและด่าว่าจนชายหนุ่มรู้สึกสับสนไปหมด

เกยูรเริ่มทำใจได้กับความรักจึงตัดสินใจที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก เธอมาบอกลาตะวัน แล้วเล่าความจริงทุกอย่างให้ฟังว่าเธอไม่ใช่คนรักของเขา ตะวันเครียดหนักและสับสน เขารู้ดีว่ามีปลายฟ้าคนเดียวที่จะเป็นคนที่ให้ความจริงกับเขาได้ ตะวันบุกไปที่งานแต่งงานของศศินกับปลายฟ้าเพื่อไปชิงตัวเจ้าสาวในงานแต่งงาน ศศินโกรธจัดคิดจะตามเล่นงานตะวัน แต่กลับถูกสิริกานดาซึ่งเข้ามาในงานด้วยความโกรธแค้นที่ชายหนุ่มคิดจะเขี่ย เธอทิ้ง เธอเปิดเผยสิ่งที่ศศินทำทั้งหมดให้ทุกคนได้รู้ และยิงชายหนุ่มจนบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นอัมพาตครึ่งล่าง ก่อนที่เธอจะยอมมอบตัว

ตะวันได้รู้ความจริงจากปลายฟ้าเรื่องที่อารักษ์เป็นพ่อของตน หญิงสาวพาชายหนุ่มไปพัทยาเพื่อสอบถามจากบรรดาเพื่อนเก่าๆ ของอารักษ์ จนชายหนุ่มยอมเชื่อว่าอารักษ์เป็นพ่อที่เลี้ยงดูตนมา ภาพความทรงจำเก่าๆที่หายไปเริ่มชัดเจนอีกครั้ง ตะวันรีบเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อไปเยี่ยมอารักษ์ แต่ระหว่างทางด้วยความประมาทรถที่ขับก็เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ

อารักษ์รู้ข่าวลูกชายบาดเจ็บ ก็หนีออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปดูอาการลูกชาย จนรู้ว่าตะวันปลอดภัย เขาจึงคิดหนีทุกคนกลับเชียงใหม่ ตะวันรู้สึกตัว คนแรกที่เขาถามถึงนั้นก็คืออารักษ์ อรดีรู้สึกสำนึกผิดที่ตกเป็นเครื่องมือของความโลภและเห็นแก่ตัว และถูกศศินหลอกใช้ จึงสารภาพทุกอย่างให้ลูกชายฟังตามจริง ตะวันขอร้องให้ทุกคนช่วยกันตามหาพ่อของเขา แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าอารักษ์ไปไหน มีเพียงตะวันที่จำสัญญาของตนกับพ่อได้ ว่าจะไปใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านอิงดอยด้วยกัน เขาจึงเดินทางไปที่บ้านอิงดอยที่พ่อซื้อไว้ตามคำบอกเล่าของแก้วตา และพบอารักษ์กำลังนอนป่วยหนักอยู่ที่นั่น

ตะวันพาอารักษ์ไปส่งโรงพยาบาล อาการของเขาเข้าขั้นวิกฤติจนต้องผ่าตัดด่วน โอกาสรอดชีวิตมีเพียงห้าสิบเปอร์เซนต์ ตะวันได้แต่สวดมนต์ขอให้พ่อของตนหายดี แล้วในที่สุดการผ่าตัดก็เสร็จสิ้น เพียงแต่รอให้อารักษ์ฟื้นขึ้น หรือจะหลับชั่วนิรันดร์

ระหว่างนั้นชายหนุ่มต้องปลีกตัวเพื่อไปขึ้นคอนเสิร์ตสำคัญที่เตรียมการไว้ ชายหนุ่มจึงถือโอกาสนี้สารภาพความจริงทุกอย่างกับแฟนเพลงด้วยน้ำตา และประกาศก้องว่าเขาภูมิใจที่ได้เกิดมามีพ่อกะเทยอย่างอารักษ์ บทเพลงพระจันทร์สีรุ้งที่เขาแต่งให้ผู้เป็นพ่อระหว่างที่เดินทาง ถูกขับขานขึ้นสดๆ ท่ามกลางกำลังใจของทุกคนในที่นั้นที่ส่งไปช่วยอารักษ์ให้ได้ฟื้นคืนกลับมา อีกครั้ง

แล้วก็เหมือนมีปาฏิหาริย์ อารักษ์ซึ่งหมอลงความเห็นว่าหมดหวังนั้น กลับเริ่มมีอาการตอบสนอง และลืมตาขึ้น เมื่อลูกชายสุดที่รักเดินทางกลับมาหา แต่โชคร้ายที่เขาไม่สามารถจะจำเรื่องราวต่างๆ ได้อีกเลย แต่ถึงแม้ว่าอารักษ์จะเป็นอย่างไร วินาทีนี้ตะวันก็ไม่ยอมที่จะทิ้งพ่อไปอีก เขาเฝ้าคอยดูแล และอยู่กับพ่อที่บ้านอิงดอยแห่งนั้น โดยมีปลายฟ้าซึ่งได้หมั้นหมายกันไว้ แวะเวียนมาเยี่ยมเยียนและช่วยดูแลอารักษ์อย่างมีความสุข


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thaipr.net

สกุลกา


ความรักความเสียสละเพื่อให้คนรักพบสิ่งที่ดีกว่า

ดวง (รัชนีกร พันธ์มณี) สาวใช้ในบ้านเศรษฐีตระกูลกาญจนโรจน์ แอบมีความสัมพันธ์กับ รัตน์ (อนุวัฒน์ นิวาตวงศ์) ลูกชายเจ้าของบ้านจนตั้งท้อง พอแม่ของรัตน์รู้จึงบังคับให้ดวงทำแท้ง ดวงจึงต้องหนีมาอาศัยอยู่กับ สุดา (ณหทัย พิจิตรา) พี่สาวที่บ้านเช่าในสลัม สุดามีอาชีพรับจ้างซักรีดมีรายได้เดือนละไม่กี่พัน เมื่อ ดาว (วรรณรท สนธิไชย) ลูกสาวของดวงเกิดมา ก็ป่วยหนักต้องใช้เงินมากมายในการรักษาดวงไม่มีเงินจึงจำต้องขายตัวหาเงินมา รักษาลูก และตั้งแต่นั้นเธอก็ทำงานเป็นหญิงบริการเรื่อยมา เพื่อเก็บเงินส่งเสียให้ลูกเรียนโรงเรียนดีๆ แต่ดวงก็ละอายใจเกินกว่าจะให้ลูกเรียกเธอว่าแม่ จึงขอร้องให้สุดารับดาวเป็นลูกแทน จนกระทั่ง 17 ปีผ่านไป

ดาวเติบ โตขึ้นมาในโรงเรียนคอนแวนต์ เป็นเด็กสาวที่บริสุทธิ์งดงาม และเข้าใจว่าเธอเป็นลูกสาวของสุดา และดวงเป็นเพียงน้าสาว ภควดี หรือ ป้อม (วรนันท์ จันทรัศมี) เพื่อนสนิทของดาว อยากจับคู่ดาวกับพี่ชาย ภาติยะ หรือ ปุ๊ (ชัยพล พูพาร์ต) จึงหาทางให้ทั้งสองมาเจอกัน ปุ๊หลงรักดาวหัวปักหัวปำทันที ขณะที่ดาวเองก็ได้เจอกับผู้ปกครองนักเรียนคนหนึ่งที่เธอถูกชะตา โดยไม่รู้เลยว่าผู้ปกครองคนนั้นคือ พงศกร (ปฏิภาณ ปฐวีกานต์) หรือ อาน้อง ของป้อม และ ปุ๊ น้องเองก็หลงใหลในความน่ารักใสซื่อของเธอ ซึ่งเขาเองไม่รู้เลยว่าเด็กคนนั้นคือดาว คนที่หลานชายเขาหลงนักหลงหนา จนทำให้เขารู้สึกเกลียดชังเด็กที่ชื่อ ดาว

ความสัมพันธ์ของดาวและน้องสานต่อกันเรื่อยมา โดยทั้งสองไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร...
จน กระทั่งวันงานโรงเรียนที่ดาวได้แสดงละครเป็นจูเลียต น้องซื้อดอกไม้ช่องามหวังจะมอบให้ดาว แต่คนที่ตัดหน้าชิงมอบดอกไม้ให้ก่อนกลับเป็นปุ๊ ทำให้น้องเข้าใจเดี๋ยวนั้นเองว่า ดาวเป็นเด็กเจ้าเล่ห์ที่ชอบหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายไปทั่ว และแกล้งมาปั่นหัวให้เขาหลงรัก ตั้งแต่นั้นน้องจึงทำเย็นชาบึ้งตึงกับดาว จนดาวแอบร้องไห้เสียใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของน้อง

ปัจจุบัน...
รัตน์ เป็นอธิบดีกระทรวงการต่างประเทศ เขาแต่งงานกับ วลัย (สิรินยา บิชอฟ) มานานแต่ไม่มีลูก แต่ในวันงานโรงเรียน รัตน์กับวลัยได้เห็นดาวแสดงบทจูเลียต ทั้งสองรู้สึกเอ็นดูถึงขั้นอยากจะอุปการะดาว ยังความอิจฉาให้กับ วารี (ชนานา นุตาคม) พี่สาวแท้ๆ ของวลัย ที่หวังว่าวลัยจะยกสมบัติมากมายให้กับรัตนาวดี หรือ วดี (อลิชา ไล่ศัตรูไกล) ลูกสาว วดีเป็นแฟนกับน้องมาหลายปี แต่ก็ยังไม่มีวี่แววจะได้แต่งงาน เพราะน้องเป็นห่วงหลานๆ ยังไม่อยากสร้างครอบครัวของตัวเอง

แต่แล้ววันหนึ่ง ดวงลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่บ้านเพราะรีบออกไปทำงาน ดาวเป็นห่วงจึงตามเอาไปให้ที่ทำงานของดวง ทำให้ดาวได้รู้ความจริงว่าดวงทำงานเป็นหญิงขายบริการในคลับของ ไพโรจน์ (บริบูรณ์ จันทร์เรือง) ดาวเสียใจมากเพราะคิดมาตลอดว่าดวงทำงานเป็นพนักงานบัญชี ซ้ำร้ายยังโดนไพโรจน์เข้าใจผิดว่าดาวเป็นเด็กมาใหม่ จึงใช้กำลังปลุกปล้ำ ดาวดิ้นสู้สุดชีวิตจนฟาดหัวไพโรจน์เลือดอาบ ไพโรจน์โกรธมากไล่ล่าดาวจนกระทั่งบังเอิญมาเจอกับปุ๊
ทั้งสองต่อสู้กัน จนปืนของไพโรจน์ลั่นโดนตัวเอง ปุ๊จึงพาดาวหนีรอดไปได้ วันรุ่งขึ้นปุ๊กับไพโรจน์ลงข่าวหน้าหนึ่งว่ามีเรื่องแย่งผู้หญิงกัน ทำให้น้องยิ่งโกรธที่ดาวทำให้ปุ๊มีเรื่องเสื่อมเสีย ส่วนไพโรจน์ก็แค้นจัดที่เด็กเมื่อวานซืนอย่างปุ๊ทำให้เขาเสียหน้า พอออกจากโรงพยาบาล ไพโรจน์จึงตรงไปหาดวงเพื่อถามหาที่อยู่ของปุ๊ และยังฝากบอกให้ปุ๊มากราบขอโทษเขาภายในสามวัน ไม่อย่างนั้นทุกคนจะต้องเสียใจ และสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

คืน หนึ่งระหว่างที่ปุ๊กำลังจะกลับบ้าน ก็โดนคนของไพโรจน์อุ้มไปซ้อมและหวังจะฆ่าให้ตาย แต่ปุ๊ก็หนีเอาตัวรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ด้านน้องที่ออกตามหาปุ๊จ้าละหวั่น พอรู้ว่าปุ๊รอดจากเงื้อมือไพโรจน์มาได้ ก็ตัดสินใจจะส่งปุ๊ไปเมืองนอกเพื่อตัดปัญหา แต่ปุ๊ไม่ยอมเพราะเป็นห่วงดาว น้องเลยขอให้ดาวไปพูดเกลี้ยกล่อมให้ พอดาวออกปากพูด ปุ๊ก็ยื่นคำขาดว่าดาวต้องหมั้นและไปอยู่เมืองนอกด้วยกัน
น้องตกใจมาก ยืนกรานปฏิเสธเสียงแข็ง ดาวเลยเข้าใจว่าน้องเห็นเธอต่ำต้อยไม่คู่ควร จึงน้อยใจกลับบ้านไป แต่พอดาวมาถึงบ้าน กลับพบว่าไพโรจน์จับดวงกับสุดามัดไว้ และกำลังรอดาวกลับมาเพื่อจะขืนใจ แต่โชคดีที่ ต้น (อาณัตพล ศิริชุมแสง) เพื่อนบ้านมาช่วยไว้ได้ ทั้งสองต่อสู้กันจนบ้านเกิดไฟไหม้ ไพโรจน์จึงขังพวกดาวไว้ในบ้านหวังให้ตาย แต่ในที่สุดต้นก็ช่วยทุกคนออกมาได้ พอปุ๊กับป้อมรู้ข่าวว่าบ้านดาวไฟไหม้และดาวได้รับบาดเจ็บ จึงรีบไปหาดาว น้องอดเป็นห่วงไม่ได้จึงตามไปด้วย

ในที่สุดน้องก็พาดาว ดวง และสุดามาตรวจรักษาอย่างดีที่โรงพยาบาลเอกชน และก็ทำให้สุดาได้รู้ว่ากำลังเป็นมะเร็ง ดวงเศร้าโศกเสียใจในชะตากรรมของตัวเองมาก พอเห็นภาพที่รัตน์กับวลัยมาเยี่ยมดาวด้วยความรักและปรารถนาดี ดวงจึงตัดสินใจยกดาวให้กับรัตน์พ่อที่แท้จริง ด้วยหวังว่าดาวจะมีชีวิตที่ดีกว่าจะต้องมาลำบากกับเธอ เมื่อดาวรู้ว่าแม่กับน้าดวงจะยกเธอให้เป็นลูกบุญธรรมของอธิบดีรัตน์ ดาวก็ไม่ยอม ดวงจึงโกหกว่าขายเธอให้กับอธิบดีรัตน์ด้วยเงินห้าแสน ดาวเสียใจมากแต่ก็ต้องจำยอม ส่วนต้นที่รู้เรื่องทั้งหมด ก็ต้องกล้ำกลืนความจริงนี้ไว้ไม่สามารถบอกกับดาวได้

ดาวเข้ามาอยู่ บ้านกาญจนโรจน์ในฐานะลูกบุญธรรมของรัตน์กับวลัย ยังความไม่พอใจให้กับวารีและวดีอย่างมาก เพราะทั้งสองคิดว่าดาวจะมาแย่งทุกอย่างไปจากพวกเธอ ด้านปุ๊พอเห็นว่าดาวมีฐานะและศักดิ์ศรีเท่ากับเขาแล้ว จึงเร่งน้องให้มาขอหมั้นดาวก่อนที่จะไปเมืองนอก พอน้องมาคุยกับดาว ทำให้ดาวน้อยใจคิดว่าน้องอยากจะยกเธอให้คนอื่น เลยรับหมั้นกับปุ๊ ในวันหมั้น น้องเอาแหวนประจำตระกูลเทพบริรักษ์มาให้ปุ๊หมั้นดาว วดีเห็นก็โกรธมากและสงสัยว่าน้องอาจมีใจให้ดาว ส่วนปุ๊พอได้หมั้นกับดาวแล้วก็ยอมไปเมืองนอก โดยให้น้องสัญญาว่าจะดูแลดาวให้

ระหว่างนั้นวารีกับวดีก็รวมหัวกัน กลั่นแกล้งดาวต่างๆนานา ยิ่งวดีเห็นว่าต้นมาหาดาวบ่อยๆ เลยใส่ไฟกับน้องว่าดาวปันใจจากปุ๊ไปหาแฟนเก่า ทำให้น้องหึงดาวโดยไม่รู้ตัว วดีเลยยิ่งมั่นใจว่าน้องอาจมีใจให้ดาว และไม่นานดาวก็ได้รู้ว่าแม่กับน้าไม่ได้ขายเธอให้กับอธิบดีรัตน์ ดาวเสียใจและนึกเป็นห่วงแม่กับน้าจึงให้ต้นพาไปหา น้องเห็นดาวขึ้นรถไปกับต้นก็เข้าใจผิด ซ้ำดาวยังมาหายตัวไปทั้งคืนเพราะสุดาป่วยหนัก น้องเลยยิ่งคิดว่าดาวเป็นผู้หญิงใจง่าย ระหว่างนั้นข่าวคราวของปุ๊ที่มาถึงดาวก็เริ่มห่างหายไป เพราะปุ๊ไปเจอกับเพ็ญลักษณ์ และกำลังหลงเสน่ห์เธออย่างหนัก

น้อง กลัวว่าดาวจะเสียใจ จึงอ้างชื่อปุ๊ซื้อของไปฝากดาวอยู่เสมอ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างดาวกับน้องดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีวดีคอยขัดขวางแต่ก็ไม่สำเร็จ ในงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของดาว น้องขอดาวเต้นรำในเพลงพิเศษ ชื่อ ดาวบนดิน ต้นที่มาร่วมอวยพรเห็นเข้าก็รู้ทันทีว่าหัวใจของดาวเป็นของน้องไปเสียแล้ว น้องให้สร้อยจี้รูปดาวเป็นของขวัญ ดาวรับไว้อย่างชื่นใจ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งสองต้องประหลาดใจก็คือการปรากฏตัวของปุ๊ เมื่อเจอดาวปุ๊ยืนยันในความรักที่เขามีต่อเธอ น้องจึงจำต้องเสียสละถอยห่างออกมา

ดาวเจ็บปวดกับท่าทีที่เปลี่ยนไป ของน้อง ฝ่ายปุ๊ก็รุกเร้าขอดาวแต่งงาน ดาวพยายามบ่ายเบี่ยงเพราะเธอรู้ใจตัวเองดี ปุ๊กลุ้มใจเลยขอให้น้องช่วยหว่านล้อมให้ น้องจำใจช่วยพูดแทนปุ๊ ทำให้ดาวน้อยใจหนัก ยิ่งถูกวารีและวดียุส่งเพราะอยากจะกำจัดดาวให้พ้นทาง ดาวจึงตอบตกลงแต่งงานกับปุ๊ด้วยความจำใจ แต่ก่อนจะถึงวันงานกลับมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเพ็ญลักษณ์ปรากฎตัวขึ้น และบอกว่าเธอคือคนรักของปุ๊ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศ
ปุ๊กลุ้มใจไม่รู้จะ แก้ปัญหาอย่างไร จึงสารภาพเรื่องนี้กับน้อง น้องโกรธมากเพราะถ้าต้องถอนหมั้น ดาวจะเป็นฝ่ายเสียหาย น้องจึงรับปากจะจัดการกับเพ็ญลักษณ์ให้ โดยน้องบอกจะชดใช้ทุกอย่างที่ปุ๊ทำให้เพ็ญลักษณ์เสียหาย แต่ เพ็ญพร (รัญญา ศิยานนท์) แม่ของเพ็ญลักษณ์ไม่ยอม เธออยากให้ปุ๊กับเพ็ญลักษณ์แต่งงานกัน เพราะเพ็ญลักษณ์กำลังตั้งท้องลูกของปุ๊ น้องคิดหนักแต่เพื่อความสุขของดาว เขาจึงยอมเสียสละตกลงจดทะเบียนรับเป็นพ่อเด็ก และให้ค่าเลี้ยงดูลูกของเพ็ญลักษณ์ โดยมีข้อแม้ว่าจะไม่ใช้ชีวิตร่วมกับเธอ

พอป้อมรู้ความจริงก็สงสารน้องสุดหัวใจ แต่น้องให้ป้อมสัญญาว่าจะไม่บอกใคร เพราะเขายินดีจะทำทุกอย่างถ้ามันทำให้ดาวและปุ๊มีความสุข ส่วนดวงซึ่งเป็นคนรับใช้อยู่ที่บ้านเพ็ญลักษณ์ พอรู้ความจริงก็สงสารน้อง และไม่อยากให้ปุ๊ต้องทำผิดกับลูกในท้อง ดวงจึงตัดสินใจไปบอกความจริงกับปุ๊ ทำให้ปุ๊รู้สึกผิดและยอมรับผิดชอบเพ็ญลักษณ์และลูกในท้อง

ด้านอธิบดี รัตน์ที่สงสัยเรื่องของดวงมาโดยตลอด ก็สืบจนรู้ว่าความจริงว่าดวงไม่ได้กินยาขับเลือดทำแท้งลูก และนั่นก็หมายความว่า ดาวเป็นสายเลือดแท้ๆของเขา แต่ก่อนที่รัตน์จะได้บอกความจริงกับดาว วดีที่กลัวว่าดาวจะแย่งทุกอย่างไป ก็สมคบกับไพโรจน์ลักพาตัวดาวไป พอทุกคนรู้จึงรีบตามไปช่วยดาว...ดาวจะได้รู้ความจริงว่าใครคือพ่อแม่ที่แท้ จริงของเธอหรือไม่? และน้องจะบอกความรู้สึกที่ล้นปรี่ในใจของเขากับดาวอย่างไร?...

ติดตามชม "สกุลกา" ได้ทุกวันจันทร์-พฤหัสบดี เวลา 20.25 . ทาง ททบ.5 เริ่ม 4 พ.ค.

เรื่องย่อละคร ดิน น้ำ ลม ไฟ

ดิน น้ำ ลม ไฟ

ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เวลา 20.30 น.




สิงห์ และปานศักดิ์ เป็นเพื่อนรักกัน สิงห์มีลูกชายชื่อดิน และปานศักดิ์ มีลูกสาวชื่อ นิอรทั้งสองครอบครัวสนิทกันมาก จนครอบครัวของสิงห์ต้องย้ายไปยังชนบทเพื่อไปรับมรดกเป็นที่ดินที่ป่าเขาสมิง ขณะที่ปานศักดิ์เข้าแก๊งเฮโรอีนของเฮียวิทย์และโดนตามล่า หนีขึ้นรถของสิงห์พร้อมลูกสาว เมื่อไปเห็นที่ดินป่าเขาสมิงก็พอใจ โทรหาเฮียวิทย์ให้ซื้อเป็นที่ตั้งโรงงานเฮโรอีน แต่เมื่อสิงห์ไม่ขายปานศักดิ์จึงยิงทิ้ง ส่วนดินกระโดดหน้าผาหนี และนิอรนั้นถูกเหวี่ยงศีรษะกระแทกจนจำความไม่ได้

15 ปีต่อมา ปานศักดิ์เป็นมาเฟียของวงการยาเสพติดฐานะดี ส่วนดินก็ไปขออยู่วัดกับหลวงพ่อไฟ ร้อยเอกหนุ่มจบใหม่จากอังกฤษ พ่อของเขาตายเพราะถูกใส่ร้ายว่าค้ายา ส่วนตัวเขาก็ถูกบีบให้ออกจากตำรวจ จนผู้พันแสวง หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับติดต่อให้มาร่วมทีม เขาคือไฟ เมื่ออยู่ในแก๊งไลออน และเป็นอัคคีเมื่ออยู่ในหน่วยสืบราชการลับ ไฟถูกส่งไปเป็นนักโทษในคุกเพื่อทำให้ซิตี๋ ลูกน้องของปานศักดิ์สนใจ ขณะเดียวกัน นรากร สมาชิกแก๊งไลออนก็ถูกส่งเข้ามาเป็นสายในหน่วยสืบราชการลับเหมือนกัน แต่เมื่อนรากรอยู่ที่บาร์อเมริกันของปานศักดิ์จะใช้ชื่อว่า โรซี่

ดิน ถูกใส่ร้ายและเข้าไปอยู่ในคุกเช่นกัน ไฟพยายามหาเรื่องชกต่อยกับขาใหญ่ และดินเข้าช่วยเสมอ ซิตี๋เห็นเหตุการณ์ และชวนดินกับไฟเข้ามาร่วมแก๊ง โดยแหกคุกหนีออกไปด้วยกัน
ในแก๊งไลออน ไฟถูกมอบหมายให้ดูแลงานส่วนบาร์อเมริกัน ดินได้ดูแลวงการมวย และไฟก็พาดินไปพบผู้พันแสวงเพื่อเป็นสายสืบเพื่อชาติด้วยกัน
นิอรเห็นดินก็รู้สึกถูกชะตาแต่จำไม่ได้ ดินน้อยใจคิดว่านิอรลืมเขา จึงทำเป็นไม่สนใจนิอร
เมื่อ ไฟไปส่งข่าวในหน่วยสืบราชการลับเขาจะเป็น อัคคี ที่เหมือนหนอนหนังสือ ทำให้นรากรไม่ชอบหน้า แต่เมื่อมีเรื่องนรากรก็ช่วยอัคคีตลอด จนเขาชอบนรากร แต่นรากรกลับชอบไฟ ในแก๊งไลออน!!

โทนี่มาเป็นที่ปรึกษาให้ปานศักดิ์ ทำให้ซิตี๋ไม่พอใจที่ถูกแย่งความสำคัญ ซ้ำโทนี่ยังลักลอบเป็นชู้กับแฟนซิตี๋โดยที่ซิตี๋ไม่รู้เรื่อง เชาว์ เมืองชล ได้รับมอบหมายให้ไปเก็บรัฐมนตรีสุชล ไฟได้ยินจึงรีบรายงานหน่วย นรากรจึงรู้ทันทีและรายงานซิตี๋ว่าแก๊งไลออนมีหนอนบ่อนไส้ ที่แก๊งจึงจับตามองทุกคน และซ้อนแผนสังหาร โดยให้นิกกี้แฟนซิตี๋เป็นคนฆ่ารัฐมนตรี แผนสำเร็จเรียบร้อย แต่ปานศักดิ์และซิตี๋ก็ขัดแย้งกันมากขึ้นเมื่อนิกกี้ย้ายไปอยู่กับโทนี่

ดิน ดูแลวงการมวยก็รู้จักครูแก่ เจ้าของค่ายมวย มีลูกสาวชื่อน้ำ ปานศักดิ์ต้องการล้มมวยจึงไปติดต่อนรสิงห์ นักมวยค่ายตรงข้าม โดยแลกกับการแต่งงานกับนิอร ลูกสาว เมื่อครูแก่รู้ก็โกรธ นรสิงห์จึงฆ่าครูแก่ แล้วป้ายความผิดให้ปานศักดิ์ น้ำแค้นปานศักดิ์ที่ฆ่าพ่อของตนจะเข้าไปถล่ม แต่ดินห้ามไว้แล้วชวนมาเป็นสายสืบ น้ำจึงตกลง และได้ปลอมตัวไปทำงานที่บาร์ของปานศักดิ์ จนกระทั่งซิตี๋ติดใจในความสวยและยั่วยวนเก่งของน้ำ น้ำจึงปั่นหัวให้ซิตี๋กับปานศักดิ์เกิดรอยร้าวกันในใจ

ลม จับกังแถวเยาวราช แอบซ่องสุมพรรคพวกวางแผนก่อกวนการเก็บค่าคุ้มครอง เพราะไม่ชอบ ชาวบ้านเห็นด้วยมากๆ และผู้พันแสวงก็ชวนลมเป็นสายสืบในที่สุด นรสิงห์มาทวงสัญญาแต่งงานกับปานศักดิ์ ปานศักดิ์จะซ้อนแผนจัดการสิงห์ แต่ดินกลับพานิอรหนีไปในวันงาน ปานศักดิ์จึงโกรธและให้นรสิงห์ตามตัวกลับมา ส่วนดินนั้นพานิอรหนีมาเยาวราชโดยลมช่วยเหลือ

จู่ๆผู้พันแสวงก็ ถูกลอบสังหาร หน่วยสืบราชการลับจึงต้องยุบ ไฟโดนจับได้ว่าเป็นสายลับ และหนีไปเยาวราช น้ำเองก็หนีมาเยาวราชเช่นกัน หลังจากที่ซิตี๋โดนนิกกี้ลวงไปฆ่า นิอรอยู่ที่บ้านเยาวราช เธอรู้สึกอุ่นใจและความทรงจำบางอย่างกลับมา เธอได้ยินว่าเขาจะฆ่าปานศักดิ์จึงหนีกลับไปที่บ้านของตน นรากรรู้ความจริงว่าพ่อแท้ๆของเธอถูกแก๊งยาเสพติดฆ่า จึงตัดสินใจช่วยไฟ แต่กลับต้องตายพร้อมโทนี่ ส่วนนรสิงห์นั้นมาเจอกับดินและน้ำที่โรงงานเฮโรอีน เกิดการต่อสู้และน้ำก็ใช้มีดแทงนรสิงห์

ดินไปหาปานศักดิ์ และบอกว่าเขาคือลูกของสิงห์ ปานศักดิ์จำได้แต่ไม่คิดว่าดินจะฆ่าเขา ก่อนที่ดินจะยิง นิอรมาขวางพร้อมร้องขอชีวิตพ่อ ปานศักดิ์ได้โอกาสยิงดิน แต่ก่อนที่จะยิงซ้ำ ไฟก็นำกำลังตำรวจเข้ามาโรงงานนรกจึงปิดฉากลงพร้อม เหล่าวีรบุรุษทั้งสี่ก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของการทำเพื่อสังคม

เรื่องย่อละคร เสาร์ห้า


บทประพันธ์ ดาเรศร์
บทโทรทัศน์ นอร์แมน วีรธรรม
กำกับการแสดง ฉลอง ภักดีวิจิตร
ออกอากาศทุก วันจันทร์- อังคาร 20.25 น. ช่อง 7 สี

เรื่องย่อ
ก่อน ที่เด็กชายทั้ง 5 คน ซึ่งเกิดในวันเดียวกัน คือ วันเสาร์ที่ 5 ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 จะมาอยู่ในความอุปการะของ อธิบดีอภิชัย (พัฒนา โต๊ะชาลี) เด็กทั้งหมดได้เข้าพิธีรับพระ และรับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นพระประจำตัวคนละองค์จากพระผู้ใหญ่ เพื่อเสริมบารมีให้อยู่ยงคงกระพันธ์ นอกจากเด็กทั้ง 5 จะถูกส่งไปเรียน และฝึกวิชาป้องกันตัวเพื่อปกป้องบ้านเมืองแล้ว ทุกคนยังมีความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันออกไป

เดี่ยว สมเด็จ (รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง) มีประสาทหูที่ยอดเยี่ยม สามารถได้ยินเสียงต่างๆ ในระยะไกล เทอด ยอดธง (วัชรบูล ลี้สุวรรณ) สามารถกลั้นลมหายใจแล้วหายตัวได้ ดอน ท่ากระดาน (อานัส ฬาพานิช) สามารถใช้สมาธิมองเห็นสิ่งต่างๆ ในรัศมีที่เกิดเหตุ ยอด นางพญา (รพีภัทร เอกพันธ์กุล) สามารถเดินผ่านสิ่งกีดขวาง และกำแพงได้ กริ่ง คลองตะเคียน (พาทิศ พิสิฐกุล) สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนสายตามองไม่เห็น และปลอมตัวเป็นคนอื่นได้

เมื่อประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนจากผู้ ก่อการร้าย อธิบดีอภิชัย จึงใช้ทีมเสาร์ ๕ ช่วยติดตามหาคนร้ายกลุ่มจาร์กา ซึ่งปล้นระเบิดเชื้อโรคเคมีจากห้องทดลองในยุโรปมาซ่อนไว้ในประเทศไทย เพื่อขู่เรียกเงินจากประเทศแถบเอเชียอย่างมหาศาล ถ้าไม่ได้จะระเบิดเชื้อโรคเคมีภายใน 15 วัน และยังต้องช่วยหาหน่วยพิเศษหน่วยแรกที่หายตัวไปด้วย โดยมี พ.อ.เชษฐ คอยดูแลภารกิจนี้ นอกจากทีมเสาร์๕ จะต้องไปรับภารกิจที่หนักอึ้งแล้ว ยังมีแพทย์หญิง บุษกร หรือ นุ่น (ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม) ลูกสาวของอธิบดีอภิชัยซึ่งมีความเชี่ยวชาญทางด้านเชื้อโรคเคมีไปปฏิบัติการ นี้ด้วย เพื่อเข้าไปทำลายเชื้อโรคเคมีให้หมดสภาพในทันที

ทั้งหมดต้อง ปลอมตัวเป็นอาชญากรหนีกฎหมายด้วยการกระโดดร่มลงที่จุดนัดหมาย โดยมี แตน หรือ ดวงกมล (กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า) หน่วยจู่โจมที่ปลอมตัวเป็นหลานสาวของสัปเหร่อแต้ม หรือ พ.อ.เติมพงษ์ (กรุง ศรีวิไล) เป็นคนนำทางพาทุกคนไปที่กระท่อม ซึ่งเป็นจุดนัดหมายของกลุ่มรวมทั้ง ชลดา (กวินตรา โพธิจักร) น้องสาว พ.อ.เชษฐ ซึ่งเป็นหน่วยพิเศษด้วย เสาร์ ๕ กระจายค้นหาข้อมูลโดย เทอด กับ ชลดา และ ยอด กับ แตน ต้องปลอมเป็นสามีภรรยากัน เพื่อไปอยู่ที่หมู่บ้านเสือหมอบ ซึ่งมี เจ้าพ่ออินทร์ (โอลิเวอร์ บีเวอร์) ดูแล

ส่วน เดี่ยว กับ บุษกร ปลอมเป็นสามีภรรยากันไปสืบหาข้อมูลที่หมู่บ้านเขากระบือ ซึ่งมี เสือสนธิ์ (ฤทธิ์ ลือชา) ดูแลอยู่ โดยได้ ดอน เดินทางไปด้วย ส่วน กริ่ง คอยหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อประสานงานกับทุกคนในสองหมู่บ้าน โดยมี แคน (กัญจน์ ภักดีวิจิตร) หนุ่มชาวป่าที่ทุกคนในหมู่บ้านมองว่าเป็นคนบ้าคอยให้ความช่วยเหลือ และนำทาง นอกจากเสือสนธิ์จะมี เสือวงศ์ (อมต อินทรานนท์) เป็นสมุนคู่ใจแล้วยังมี มาเรีย (มาริสา อานิต้า) สาวนักฆ่าลูกครึ่ง ซึ่งมาในฐานะหัวหน้าที่จาร์กาส่งให้มาสังเกตการณ์คอยช่วยเหลือเสือสนธิ์ด้วย และมาเรีย ขออาสาเสือสนธิ์คอยจับผิดเดี่ยว ดอน และ บุษบา เพราะแท้จริงแล้ว มาเรีย คือ ตำรวจสากลเข้ามาสืบเรื่องราว ส่วน ดอน ก็คอยจับตาดู มาเรีย เช่นกัน

ฟาจง (ปวารา อภิพูลลาภ) นักฆ่าสาวซึ่งมีความสนิทสนมกับนายใหญ่ของจาร์กา ได้ให้ เมฟู (ชูชัย บุศราคัมวงศ์) อดีตนินจาญี่ปุ่น และ ยาโต้ (ชาลี กรรณสูต) ลูกน้องคนสนิทฝีมือดีเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยของสองหมู่บ้านพร้อมกับ ฟานิโน่ (ฌอน) ชาวยุโรปเพราะได้ข่าวว่าสายลับสากลบุกเข้ามาในทันที จึงทำให้พวกเสาร์ ๕ ต้องแกล้งทะเลาะกันเองเพื่อไม่ให้ใครจับได้ เดี่ยว ดอน และบุษกร โชว์ฝีมือได้ดีจนเสือสนธิ์ไว้ใจมากขึ้น ในขณะที่ กริ่ง ได้ไปช่วยเหลือ ยูกิ (ปริยานุช อาสนจินดา) นินจาสาวลูกครึ่งญี่ปุ่นรอดพ้นจากการถูก เมฟู ทำร้ายได้ทัน ยูกิ จึงกลับใจมาช่วยเสาร์ ๕ และพวกทำงานเพื่อปราบปรามเหล่าร้าย เพราะหักหลังองค์กรไปทำงานในสิ่งที่ไม่ดี และเธอไม่เห็นด้วย

ทาง ด้าน ทอด ชลดา ยอด และแตน ยังไม่ได้เบาะแสเพิ่มจนวันหนึ่งได้ไปช่วยเหลือ ต่อ (บิลลี่ ผีน่ารัก) ชายร่างเตี้ยจากกลุ่มนักเลง ต่อจึงอาสาจะช่วยหาข่าวให้เพราะได้ข้อมูลว่ารังของจาร์กา อยู่ในป่าลึก เทอด กับ ยอด พยายามแสดงฝีมือเพื่อดึงดูดความสนใจของจาร์กา เพื่อจะได้ไปถึงรังอย่างปลอดภัย ในขณะที่ เดี่ยว กับ ดอน ก็หาทางไปเช่นกัน โดยมี กริ่ง กับ ยูกิ คอยประสานงานกับทุกคน เสือสนธิ์โกรธมากเมื่อรู้ว่ามีคนในหมู่บ้านทรยศเพื่อไม่ให้แผนทั้งหมดเสีย ดอน จึงแกล้งหนีไปเพื่อให้ เดี่ยว กับ บุษกร พ้นข้อสงสัย มาเรีย จึงขออาสาตามล่าดอนด้วยตัวเอง แต่เสือวงศ์ก็ให้ลูกน้องตามล่า มาเรีย กับ ดอน เช่นกัน

จาร์กา ถูกผู้ก่อการร้ายจากหลายกลุ่มกดดัน เพราะอยากได้เชื้อโรคเคมี จาร์กาจึงให้เสือสนธิ์ และเจ้าพ่ออินทร์รวมกำลังกันกวาดล้าง เพราะทั้งสองคนต่างได้รับเงินสนับสนุนจากจาร์กา เพราะเหตุนี้จึงทำให้กลุ่มเสาร์ ๕ ได้เจอกันยกเว้นดอน แต่ทุกคนก็เริ่มสบายใจเมื่อเดี่ยวบอกว่ามาเรียเป็นตำรวจสากล จากการช่วยกันหาข้อมูลทุกคนจึงรู้ว่า หัวหน้าใหญ่ของจาร์กาคือ บันลือ ตระกูลซือ (พงศนารถ วินศิริ) อดีตนักธุรกิจที่หนีการจับกุมด้วยข้อหาโกงสถาบันการเงิน บันลือจึงคิดการใหญ่เพื่อสร้างความร่ำรวยด้วยการใช้เชื้อโรคเคมีเป็นเครื่อง มือ ยาข่าน หัวหน้าผู้ก่อการร้ายจากตะวันออกกลางส่งสมุนมาขโมยข้อมูล และเส้นทางไปรังจาร์กา แต่ถูกดอน กริ่ง มาเรีย และยูกิ จัดการเอาไว้ได้ กริ่งจึงปลอมตัวเป็นสมุนของยาโคเพื่อยืมมือยาโคจัดการจาร์กา

เหลือ เวลาอีก 2 วัน จะครบกำหนดเสาร์ ๕ และทุกคนตกลงกันว่าจะส่งข่าวไปให้หน่วยพิเศษรู้เพื่อส่งกำลังมาช่วย ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไปทุกคนสามารถบุกเข้าไปถึงรังของจาร์กา โดยที่บุษกรทำลายเชื้อโรคเคมีได้สำเร็จ บันลือคิดหนีจึงถูกยาโคฆ่าตาย สุดท้ายกลุ่มคนร้ายถูกจับทั้งหมด ยกเว้นเจ้าพ่ออินทร์ และเสือสนธิ์ เพราะทั้งสองกลับใจมาช่วยเหลือทางการกำจัดศัตรูของแผ่นดิน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเพื่อชาติแล้วเสาร์ ๕ ขอทำภารกิจของหัวใจให้สมหวังในเรื่องความรักกับผู้หญิงที่ร่วมเคียงบ่าเคียง ไหล่กับพวกเขามาโดยตลอดอย่างมีความสุขบ้าง


นักแสดง
วัชรบูล ลี้สุวรรณ >>> เทอด ยอดธง
รังสิโรจน์ พันธุ์เพ็ง >>> เดี่ยว สมเด็จ
อานัส ฬาพานิช >>> ดอน ท่ากระดาน
รพีภัทร เอกพันธ์กุล >>> ยอด นางพญา
พาทิศ พิสิฐกุล >>> กริ่ง คลองตะเดียน
ปริยานุช อาสนจินดา >>> ยูกิ
มาริสา อานิต้า >>> มาเรีย
กัญจน์ ภักดีวิจิตร >>> แคน
โอลิเวอร์ บีเวอร์ >>> เจ้าพ่ออินทร์
กรุง ศรีวิไล >>> สัปเหร่แต้ม
พงศนาถ วินศิริ >>> นายบันลือ
ชาลี กรรณสูต >>> ยาโต้
กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า >>> ดวงกมล, แตน
กวินตรา โพธิจักร >>> ชลดา
ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม >>> บุษกร, นุ่น
ฤทธิ์ ลือชา >>> เสือสนธิ์
พัฒนา โต๊ะชาลี >>> อธิบดีอภิชัย
ชูชัย บุศราคัมวงศ์ >>> เมฟู
บิลลี่ ผีน่ารัก >>> ต่อ
ฌอน >>> ฟานิโน
ปวารา อภิพูนลาภ >>> ฟาจง

ละคร วังน้ำค้าง

ละคร วังน้ำค้าง

บทประพันธ์ อนัญจนา
บทโทรทัศน์ ดลกมล คนหลังม่าน
กำกับการแสดง เอกภพ ตันหยงมาศกุล
ออกอากาศทุก วันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.30 น. ช่อง 7




เรื่องย่อ


วัง น้ำค้าง สวรรค์ริมทะเลที่มีแต่ความสงบสุข ต้องกลายเป็นอเวจีที่เร่าร้อน เมื่อบันลือประมุขของวังต้อนรับลำเพาสาวสวยแสนอาภัพเข้ามาในหัวใจ ทำให้ไฟริษยาลุกโชนขึ้นในใจระรินญาติสาวผู้มอบหัวใจให้เขามาตลอด และความแค้นนั้นก็ตกทอดมาถึง รัตติกาลลูกติดท้องของลำเพาซึ่งต่อมาก็ได้ครอบครองหัวใจของธนนท์ ชายหนุ่มทายาทคนเดียวของบันลือที่ทำให้ระรินเกิดความรักครั้งใหม่ ระรินซึ่งกำลังจะสูญเสียทุกอย่าง จะทำอย่างไร เพลิงแค้นของเธอจะแผดเผาให้วังน้ำค้างกลายเป็นจุนหรือไม่"

ลำเพา สาวชนบทแสนสวยรักกับ เดียว พลทหารยากจน แม่บังคับลำเพาแต่งงานกับเศรษฐีซึ่งเป็นนักเลง เดียวกลับมาจากรบเขาขาพิการต้องใช้ไม้ค้ำ ลำเพาและเดียวได้เสียกันวันที่เดียวกลับมา โดยเดียวไม่รู้ว่ารุ่งขึ้นลำเพาต้องแต่งงาน ลำเพาหนีการแต่งงาน แต่ถูกกลุ่มเศรษฐีตามล่า เดียวยิงตายทั้งหมดเขาโดนจับ โดนตัดสินจำคุกยี่สิบปี ลำเพาหนีออกจากบ้าน ระหว่างลำเพาเดินทางทอดอาลัยไม่รู้จะไปไหน บันลือ มหาเศรษฐีเจ้าของเกาะวังน้ำค้างขับรถผ่านมา บันลือชอบเธอทันทีเมื่อแรกเห็น เมื่อรู้ว่าลำเพาไม่มีที่ไป บันลือพาลำเพาไปอยู่ด้วยที่คฤหาสน์ของเขาที่ริมทะเล เขาอยู่กับญาติสาวชื่อระริน และชายรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ ชื่อพร แม้จะเป็นสาวสวยแต่ระรินยังคงครองโสด เพราะตั้งแต่ที่เธอต้องมาอาศัยอยู่กับครอบครัวของบันลือ หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ระรินก็แอบหลงรักบันลือตั้งแต่เด็ก แต่ไม่กล้าแสดงออก

จนกระทั่งบันลือแต่งงาน และภรรยาเสียชีวิตลง ทิ้งเพียงลูกชายไว้1คน ซึ่งบันลือก็ส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ เมื่อเรียนจบมัธยมก็ส่งต่อไปเรียนที่ต่างประเทศ ระรินจึงได้อยู่กับบันลือในคฤหาสน์อย่างมีความสุขมาตลอด จนกระทั่ง บันลือรับลำเพามาอยู่ด้วย และให้ความสนิทสนมเป็นพิเศษ ระรินจึงริษยาลำเพามาก ลับหลังบันลือ

ลำเพาถูกระรินกระทำต่างๆ นานา แต่เธอก็อดทนเพราะรู้ตัวว่ากำลังตั้งท้องอ่อนๆ ไม่สามารถระเหเร่ร่อนไปอยู่ที่อื่นได้ ยิ่งนานวัน บันลือก็ยิ่งเอ็นดูลำเพามากขึ้นจนกลายเป็นความรัก บันลือขอลำเพาแต่งงานและขอรับเป็นพ่อของเด็กเอง ระรินแค้นใจมาก วันหนึ่งเมื่อ หนูแดง ลูกสาวของลำเพาอายุยังไม่ครบขวบ และเป็นวันที่ปลอดคน บันลือไม่อยู่บ้าน นายพรพาหนูแดงไปตัดดอกไม้ที่สวนวังน้ำค้างระรินหลอกลำเพาไปธุระด้วยกันที่ เกาะ เมื่อถึงกลางทะเล ระรินตีลำเพาจนตกน้ำ ลำเพาว่ายน้ำไม่เป็นเธอจมทะเลตาย บันลือรู้เรื่องลำเพาประสบอุบัติเหตุจมน้ำตาย บันลือรับเลี้ยงหนูแดงเป็นลูก เขาตั้งชื่อหนูแดงว่ารัตติกาล

เกือบ ยี่สิบปีผ่านไป รัตติกาลโตเป็นสาวสวย บันลือรักมาก ตรงข้ามกับระรินที่ยังปักใจว่า รัตติกาลมาแย่งความรักของบันลือไป รัตติกาลเรียกนายพรที่เลี้ยงเธอมาตลอดตั้งแต่เด็กว่าตา บันลือขอร้องระรินและตาพรให้ปกปิดว่าเขาไม่ใช่พ่อแท้ๆ ของเธอและให้ปกปิดว่าพ่อแท้ๆ ของเธอเป็นใคร แต่วันที่บันลือเข้ากรุงเทพเพื่อไปรับ ธนนท์ ลูกชายซึ่งกลับจากอเมริกา ระรินรุกรานรัตติกาล และเมื่อรัตติกาลเถียงระรินโกรธจัด ตบหน้ารัตติกาลและเผยความจริงว่า รัตติกาลไม่ใช่ลูกบันลือแต่เป็นลูกไอ้ขี้คุกผู้ร้ายฆ่าคนตาย รัตติกาลเสียใจมากวิ่งหนีเตลิดออกจากบ้าน เธอวิ่งไปเจอ สีมา สาวลูกชาวประมงยากจน สีมาทำตัวเป็นทอม รัตติกาลบอกว่าเธอจะไปตาย สีมากระชากไว้ไม่ให้ไป ชวนรัตติกาลไปอยู่ด้วย บันลือกลับมา ระรินบอกว่ารัตติกาลหนีออกจากบ้าน คงหนีตามผู้ชาย

บันลือออกตามทุก วันจนเจอรัตติกาล ช่วยสีมาทำประมง บันลือขอร้องให้รัตติกาลกลับบ้าน สีมาขอตามไปอยู่ด้วย ระรินแสดงความพึงพอใจในธนนท์ แบบหญิงชอบชาย เพราะธนนท์คล้ายบันลือตอนหนุ่มๆมาก เธอหาโอกาสเคลมธนนท์ แต่ตาพรมาขัดจังหวะทุกครั้ง ธนนท์เองก็รู้ตัว เขาเลี่ยงอย่างสุภาพกับระริน ธนนท์รักรัตติกาลทันทีที่เห็น รัตติกาลก็เช่นเดียวกัน บันลือสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้าออกตาเกินไป แต่ระรินหึงหวงริษา ระรินมอมเหล้าธนนท์ จะปล้ำเขา แต่ตาพรมาขัดไว้ได้อีก ระรินโกรธมาก ต่อมาระรินจะฆ่ารัตติกาลขณะนอนหลับ ตาพรมาช่วยทัน แกไม่ได้ทำอะไรระริน แค่ยืนมองเฉยๆ แต่ตาพรไม่เคยพูดกับใครเรื่องระรินที่จะเคลมธนนท์ และจะฆ่ารัตติกาล ระรินยังแค้นรัตติกาลที่จะได้ทุกอย่างไปจากวังน้ำค้างเพราะรัตติกาลจะเป็น คู่ครองของธนนท์แน่นอน

ระรินลวงรัตติกาลจะไปฆ่ากลางทะเลเหมือนที่เคย ฆ่าลำเพามาแล้ว โดยหลอกว่าธนนท์ประสบอุบัติเหตุ เมื่อเรือมาถึงที่ที่ลำเพาเคยจมน้ำตาย ระรินเตรียมฆ่ารัตติกาลโดยรัตติกาลไม่รู้เลยว่าเธอกำลังจะถูกฆ่า แต่แล้วระรินเห็นผีลำเพาโผล่ขึ้นมาจากใต้ทะเลมายืนบนผิวน้ำ และเดินมาหาเธอในเรือโดยไม่พูดจาอะไรเลย แต่ลำเพาจ้องจะเอาเรื่อง ลำเพายังสวยเหมือนเมื่อครั้งเธอยังมีชีวิตอยู่ ระรินกลัวลำเพาจนเป็นลม รัตติกาลไม่รู้เรื่อง เมื่อระรินเป็นลม เธอพาเรือกลับเข้าฝั่ง ระหว่างยังไม่ฟื้นระรินเห็นลำเพามารับเธอไปด้วยกัน ระรินไปด้วยอย่างเต็มใจ แต่เมื่อลำเพาให้เธอลงเรือระรินหวีดร้องไม่ไปด้วย เธอตื่นขึ้นมาเห็นธนนท์กับรัตติกาลนั่งเฝ้าอยู่อย่างห่วงใย ระรินกอดธนนท์ราวกอดขอความช่วยเหลือจากชายคนรัก

เดียวพ้นโทษ ไปหาแม่ของลำเพาที่บ้าน แม่ของลำเพาสำนึกในความผิดที่ทำ แกเอาจดหมายของลำเพาให้เดียวอ่าน เดียวรู้ว่าลำเพามีลูกสาวกับเขา และลำเพาไปอยู่ที่วังน้ำค้างกับชายที่ชื่อบันลือเดียวไปที่เกาะวังน้ำค้าง พบรัตติกาล รัตติกาลรู้สึกว่าถูกชะตากับชายคนนี้ตั้งแต่แรกเห็น เธอบอกว่าพ่อของเธอเป็นชายขี้คุกชื่อเดียว แม่ของเธอชื่อลำเพา แต่แม่ตายไปตั้งแต่เธออายุยังไม่ครบขวบเดียวช็อกที่ลำเพาตาย จากนั้นเดียวมาแอบดูรัตติกาลทุกวัน ไม่คิดจะเปิดเผยว่าตัวเองเป็นพ่อเพราะขณะนี้ลูกสาวมีชีวิตที่สูงส่งกว่าเขา มาก รัตติกาลให้ดอกกุหลาบแดงของวังน้ำค้างแก่ชายพิการลึกลับทุกวัน จนวันหนึ่งระรินเห็น และตอกหน้า

รัตติกาลต่อหน้าธนนท์ว่าแอบลักลอบพบ ชายไม่มีหัวนอนปลายเท้าฉันชู้สาว รัตติกาลแก้ตัวไม่ได้ แต่บันลือไม่เชื่อว่ารัตติกาลจะเป็นดังที่ระรินกล่าวหา ระรินให้ตาพรเป็นพยาน ตาพรบอกว่าไม่เคยเห็นรัตติกาลคุยกับชายแปลกหน้าที่ไหนเลย ระรินโกรธที่ตาพรโกหกเข้าข้างรัตติกาลทั้งๆ ที่ตาพรก็อยู่กับรัตติกาลตอนรัตติกาลพบกับเดียว รัตติกาลกับธนนท์ร่วมมือกันจับสีมาลอกคราบความเป็นทอมให้กลับเป็นหญิง เพราะเห็นแล้วว่าจริงๆ สีมาเป็นสาวที่สวยมาก และพ่อบันลือก็อ้างว้างว้าเหว่มานาน ควรจะมีคู่ใจเสียที สีมาแต่งกายเป็นสาวแล้วสวยจริงๆ บันลือถูกใจมาก ระรินยังอาฆาตที่จะฆ่ารัตติกาลตลอด

วันหนึ่งสบโอกาสที่สีมาเอา เครื่องดื่มไปให้คุณๆ แต่ละคนในบ้าน ระรินแอบใส่ยาพิษในนมสดของรัตติกาล แต่บันลือเกิดอยากดื่มนมสด เขาเอาของรัตติกาลไปดื่มก่อน ให้สีมาไปทำให้รัตติกาลใหม่ ระรินยินดีเมื่อได้ยินเสียงสีมาหวีดร้อง แต่แล้วกลับตกใจเมื่อคนดื่มนมผสมยาพิษคือบันลือ หมอล้างท้องช่วยบันลือทัน เมื่อบันลือกลับบ้านได้ เขาพูดกับระริน เขารู้ว่าระรินตั้งใจจะฆ่ารัตติกาลรู้ว่าระรินหลงรักธนนท์ฉันชู้สาว แต่เมื่อระรินเป็นญาติเขา เขาจึงไม่ทำรุนแรงถึงกับจะส่งเธอให้ตำรวจ แต่เขาจะตัดปัญหาให้ธนนท์แต่งงานกับรัตติกาล ทุกอย่างจะได้จบลงเสียที

วัน แต่งงานของธนนท์กับรัตติกาล เดียวมาแอบดูความรุ่งเรืองในชีวิตลูก ระรินเห็นแฉกลางงานแต่งว่าเดียวเป็นชายชู้ของรัตติกาล เดียวเข้ามาในงาน บอกว่าเขาคือชายที่มาแอบดูรัตติกาลตลอดเพราะเขารักรัตติกาล แต่ไม่ใช่ฉันชู้สาว เพราะเขาคือพ่อของรัตติกาล ทุกคนตะลึงไปหมด รัตติกาลดีใจที่ได้พบพ่อที่แท้จริงที่เธอเฝ้าตามหามาตลอด เดียวแฉอีกว่าเขารู้จากชาวประมงว่าลำเพาไม่ได้จมน้ำตายเอง แต่ระรินฆ่าลำเพา ระรินช็อคไม่ยอมรับ เธอวิ่งไปในตึก ค้นได้ปืนพก แต่ก่อนที่จะกลับออกไป ระรินเห็นภาพวาดของลำเพากลายเป็นลำเพาจริงๆ เดินออกมาจากภาพวาด มาชวนระรินไปด้วยกัน ระรินไม่ยอมไปด้วย จะยิงลำเพา ตาพรเข้ามาในตึกระรินมองเห็นตาพรเป็นลำเพา ยิงตาพรตาย แล้วระรินวิ่งเตลิดออกนอกตึก เธอกำลังเสียสติ ระรินวิ่งไปท่าน้ำ เจอลำเพารออยู่ ลำเพาบอกให้ไปด้วยกัน ไปในที่ที่จะไม่มีใครตามระรินเจอ ระรินดีใจว่าจะหนีพ้นที่ฆ่าตาพร ลงเรือไป ไปถึงทะเลจุดที่ระรินเคยฆ่าลำเพา

ระ รินเห็นลำเพาลุกลงไปเดินบนผิวน้ำทะเล ระรินตกใจ ลำเพาเรียกระรินลงไป ระรินนึกได้ว่าลำเพาตายแล้วระรินกลัวมาก จะหนี ในที่สุดระรินตกทะเล จมน้ำ ธนนท์ขับเรือพาบันลือมาถึงเรือระรินที่ลอยอยู่ แต่หาระรินไม่เจอแล้ว บันลือรู้ว่าระรินชดใช้กรรมที่ก่อไว้แล้ว บันลือเก็บปืนที่ตกอยู่ในเรือไป ทุกคนในงานแต่งงานนึกถึงเดียวขึ้นมาได้ แต่เดียวหายไปแล้ว มีแต่กระดาษพับวางอยู่ใต้กุหลาบแดงดอกหนึ่ง เป็นจดหมายที่เดียวเขียนฝากฝังรัตติกาลให้กลับคืนเป็นลูกสาวของบันลือ และสำนึกในบุญคุณของบันลือ ตัวเขาเองขอเพียงที่น้อยนิดบนเกาะวังน้ำค้างให้เขาได้อาศัยชมบุญรัตติกาลทุก วัน รัตติกาลกับธนนท์สังหรณ์ รีบไปที่เกาะวังน้ำค้าง ร่างเดียวนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในน้ำทะเล เขากระโดดหน้าผาลงมา เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมได้ในละคร

รายชื่อนักแสดง
วิน-ธาวิน เยาวพลกุล
พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช
ปู มัณฑนา
หมวย สุภาภรณ์
เคลลี่ ธนะพัฒน์
เอมมี่ มรกต

แด่เธอด้วยดวงใจ To The One I Love


แนวละคร ซี่รี่ย์ญี่ปุ่น
บทประพันธ์ -
บทโทรทัศน์ -
กำกับการแสดง -
ออกอากาศทุกวัน ทุกวันพฤหัสบดีและศุกร์ เวลา 22.10 น.

เรื่องย่อ


ภาพยนตร์ แห่งรักแท้และกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ของผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกโชคชะตากำหนดให้ต้องสูญเสียการมองเห็น กำลังใจจึงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้เค้ามีชีวิตอยู่ต่อไป ทุกท่านจะรู้สึกถึงความรักที่สวยงามและอบอุ่นที่อาจทำให้คุณต้องเสียน้ำตา ผ่านมุมมองของนางเอกของเรา

ซีรีส์เรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องของความรักและความเสียสละของคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่เป็นความรัก ความผูกพันและความอบอุ่นที่ถ่ายทอดให้กันในครอบครัว นางเอก "โทโมคาว่า ชิกิ" เป็นแพทย์มือใหม่แผนกเด็ก ทว่า ช่างภาพหนุ่มที่ชิกิหลงรักอย่าง "อาสึมิ ชุนสุเกะ" กลับมีชะตากรรมที่ต้องสูญเสียการมองเห็น ความกังวลใจ ความรัก ของชิกิที่รู้ถึงชะตากรรมเช่นนั้นของ ชุนสุเกะ...เธอจะรับความจริงเรื่องการตาบอดของคนรักพร้อมทั้งยืนเคียงข้าง เขาอย่างไร ??

เรื่องราวความรักของคนทั้งสองท่ามกลางมหานครโตเกียว ที่สับสนวุ่นวาย และเมืองนางาซากิอันสวยงามเงียบสงบ เพื่อนพ้องที่ห้อมล้อมทั้งสองคน และเหล่าครอบครัว ชีวิต ความขัดแย้ง รวมถึงความทรมานที่แตกต่างกันของพวกเขาเหล่านั้น ความสุขใจและเศร้าใจของการมีชีวิตอยู่ที่ถูกบอกเล่าอย่างปราณีตและงดงาม นี่คือตัวตนแห่งความรักของ To The One I Love

เนื้อเรื่อง
ชิกิ ได้พบกับชุนสุเกะในงานศพของโทชิยะ เธอรู้สึกประหลาดใจกับบุคลิกทีท่าที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงระหว่างพี่น้องทั้ง สองคน ทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้งภายหลัง เมื่อได้รู้ว่าชุนสุเกะจะไม่สามารถมองเห็นได้อีก เธอก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเขา แต่เมื่ออาการของโรคทรุดหนักลง ชุนสุเกะตัดสินใจบอกเลิกกับเธอ เพราะไม่ต้องการให้เธอทิ้งอนาคตการเป็นแพทย์เด็กที่เธอฝันไว้ไป โดยไม่รู้ว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขาทั้งสองอยู่ เรื่องยิ่งเลวร้ายลงเมื่อชิกิล้มป่วย และอาการป่วยครั้งนี้ส่งผลอันตรายอย่างยิ่งต่อชีวิตของชิกิและลูก


ตัวละคร

ชิ กิ โทโมะกาว่า - มิโฮะ คันโนะ แพทย์แผนกกุมารเวช เป็นคนร่าเริง มองโลกในแง่ดี เมื่อได้รู้ว่าชุนสุเกะป่วยเป็นโรคร้าย ก็พยายามให้กำลังใจและช่วยเหลือ
ชุนสุเกะ อะสึมิ - นาโอฮิโตะ ฟุจิกิ เป็นพี่ชายของโทชิยะ ช่างภาพมืออาชีพที่กำลังเข้าใกล้ความฝันที่จะเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียง แต่ต้องป่วยเป็นโรคร้ายที่ทำให้ตาค่อยๆ มองไม่เห็นไปทีละน้อย จนบอดสนิท โรคนี้ยังไม่มีทางรักษา
ไอ อาซากุระ - มิซากิ อิโต้ เพื่อนรักของชิกิ เป็นแม่ที่พยายามทำงานเพื่อเลี้ยงลูกเพียงลำพัง แอบมีใจให้ชินโกะ
ชิน โกะ โอริฮาร่า - ฮิโรชิ ทามากิ เพื่อนของชิกิ ทำงานเป็นพ่อครัวฝึกหัด ห่วงใยชิกิมาก ชอบชิกิมานาน ในตอนท้ายเมื่อได้รู้ความในใจของชิกิ จึงยอมให้ชิกิไปหาชุนสุเกะ
โทชิยะ อะสึมิ - โยชิโนริ โอคะดะเพื่อนในกลุ่มของชิกิ,ไอ และชินโกะ น้องชายของชุนสุเกะ เสียชีวิตด้วยโรคร้ายไปตามลำพัง ไม่ยอมบอกใครถึงอาการป่วยของตนเอง
เคสุเกะ ฟุรุยะ - ซาบุโร่ โทคิโท
นายแพทย์แผนกกุมารเวช คอยให้คำปรึกษาชิกิ ห่วงใยชิกิมากกว่าแพทย์คนอื่น
เทสุโอะ โทโมะกาว่า - ชิเงรุ อิซึมิยะ พ่อของชิกิ รักและเป็นห่วงลูกสาวมาก มีนิสัยชอบโวยวาย เป็นเจ้าของร้านขายข้าวสาร
มิสุโอะ โทโมะกาว่า - มิระอิ โมริยาม่า น้องชายของชิกิ

เรื่องย่อละคร สวย แสบ ซิ่ง



ชื่อเดิมขาว หมวย สวย แท็กซี่ [Pretty Taxi Driver]
บทประพันธ์เรียว ช่อชรอุ่ม
บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี
สร้างโดยดาราวีดีโอ

นำ แสดงโดยยุ้ย-จี รนันท์ มะโนแจ่ม, อ้วน-รังสิต ศิรนานนท์, อู๋-นวพล ภูวดล, การ์ตูน-อินทิรา เกตุวรสุนทร, ส้ม-ธัญสินี พรมสุทธิ์, เจน-ชมภูนุช ปิยภาณี ฯลฯ

เรื่องย่อ
เปรียวปราย คือชื่อจริงของเธอ แต่เพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยในคณะบริหารธุรกิจ เรียกชื่อเล่นเธอว่า หมวย
“ขาวอย่างนี้ หุ่นอย่างนี้ หน้าตาอย่างนี้ อินเทรนนะโว้ย พวกฉันซิ ทาครีมไว้เทนนิ่งทุกวันมันยังไม่ออกฤทธิ์เลย” เพื่อนหญิงกล่าวอย่างขำๆ หมวยเป็นขาลุยมีอุดมการณ์ของการเป็นแท๊กซี่ ที่ต้องซื่อสัตย์ต่อผู้โดยสาร หมวยเก็บเงินได้คืนเจ้าของ หมวยเป็นคนดีของสังคม ช่วยคนท้องคลอดลูกขณะไปโรงพยาบาล ร่วมกับ ทนง จราจรคู่ปรับกลางสี่แยก หมวยช่วยตำรวจจับผู้ร้าย หมวยจับผู้ร้ายเอง หมวยช่วยคนโดนอันธพาลเล่นงาน หมวยเป็นแกนนำในการเรียกร้อง สิทธิ์ของแทกซี่ สรุปแล้วหมวยทำได้ทุกอย่าง แม้กระทั่งหนีตำรวจเพราะฝ่าไฟแดง และตำรวจคนนั้นคือทนงนั่นเอง

หมวยกำลังเรียนปริญญาตรี สาขาบริหารธุรกิจ ยามว่างเสาร์อาทิตย์เธอก็เอารถแท๊กซี่ซึ่งเป็นมรดกของพ่อแต่ยังผ่อนไม่หมด ไปขับหาเงินเพื่อช่วยแม่และตัวเอง เธอกับแม่ นางลำไย เช่าทาวน์เฮ้าส์อยู่ ชั้นล่างเป็นร้านชำเล็กๆ หารายได้ไปวันๆ มีขาประจำและขาเม้าท์ประจำหมู่บ้านหลายคน ในจำนวนนี้ก็มี ยายสมร อยู่ด้วย ยายสมรทุกเช้าจะใส่บาตร สายหน่อยจะมานั่งที่ร้านแม่ลำไยเพื่อรับแทงหวย และเดินโพยหวยให้กับนายทุนใหญ่ที่ชื่อ อภิเดช
วันธรรมดาถ้าร้อนเงินเปรียวก็จะขับรถในช่วงกลางคืน ซึ่งเสี่ยงมากสำหรับเธอ เพราะเธอเป็นสาวสวยระดับนางแบบเลยทีเดียว จริงๆเป็นคนอ่อนหวาน แต่ด้วยอาชีพที่ต้องปากกัดตีนถีบ แถมยังต้องป้องกันตัวเองจากมารสังคม จึงทำให้เธอกลายเป็นคนห้าว ใครพูดจาไม่เข้าหูเป็นโดนสวนกลับทันที อาวุธป้องกันตัวของเธอก็คือสีสเปรย์ ผู้โดยสารคนใดคิดไม่ดีเธอจะเอาสีสเปรย์พ่นใส่หน้าทันที คนร้ายบางคนถูกจับได้ก็ยังเถียงว่าเปล่าทั้งๆที่มีสีสเปรย์ติดอยู่เต็มหน้า

รถแท๊กซี่ของหมวย นอกจากจะมีวิทยุสื่อสารในเครือข่ายของแท๊กซี่แล้ว ก็ยังมีวิทยุสื่อสารติดต่อกับมูลนิธิฯ ที่ช่วยเหลือคนประสบภัยอีกด้วย เปรียวได้เข้าร่วมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยบ่อยมาก จนได้รับคำชมเชยและโล่ห์จากทางมูลนิธิมากมาย
สิบตรีทนง เป็นตำรวจสังกัดงานจราจรประจำ สน. แห่งหนึ่ง เขาเป็นตำรวจที่เคร่งครัดในหน้าที่ กำลังเรียนกฏหมายใกล้จบที่รามฯเพื่อสอบเป็นนายร้อยตำรวจ พ่อแม่ของหมู่ทนง คือนายเส และนางมูล เป็นชาวนาแถวอยุธยา เป็นหนี้ธนาคารและเป็นหนี้นอกระบบอีกเป็นเงินนับแสน หมู่ทนงจึงต้องเร่งเรียนให้จบเพื่อจะได้เลี้ยงพ่อแม่ต่อไป แต่ ธารินี น้องสาวของทนงซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียนไม่เป็นเช่นนั้น ธารินี เป็นคนเก่งคอมพิวเตอร์ แต่ไม่รักดี ไม่ยอมเรียนหนังสือเอาแต่เที่ยวเตร่ และพยายามคบหาเพื่อนชายที่ฐานะดี เพื่อต่อยอดในการเที่ยวสนุกสนานของเธอกับเพื่อนหญิงและเพื่อนตุ๊ด

บ่อยครั้งที่เปรียวขับแท๊กซี่ผ่านสี่แยกแล้วต้องเจอกับหมู่ทนงที่ชอบมาดัก จับด้วยร้อยยิ้มของเขา เพราะเธอชอบขับเปลี่ยนเลนตรงเส้นทึบ ยูเทิร์นตรงช่วงที่ห้าม บางครั้งก็ฝ่าไฟเหลืองที่เปรียวเถียงหมู่ทนงว่ามันเป็นเหลืองอมแดง ถูกใบสั่งโดนปรับไม่รู้กี่ครั้งจนทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แต่ก็มีหลายครั้งที่เปรียวเจอกับผู้โดยสารขี้เมา บางรายเป็นมิจฉาชีพ เป็นมารสังคม จวนตัวเข้าจริงๆ เธอก็โทรเรียก หมู่ทนงให้ขี่มอร์เตอร์ไซด์มาช่วย
จับกันบ่อยๆ ต่อปากต่อคำกัน ช่วยเหลือกันก็หลายครั้ง หมู่ทนงก็เริ่มหลงรักเปรียวเสียแล้ว เขาเพียรพยายามไปด้อมๆมองแถวบ้านเปรียวพบเปรียวก็อ้างว่ามาตรวจพื้นที่ เดินเข้าไปขอกาแฟกิน พูดคุยทำความรู้จักกับนางลำไย นางลำไยเห็นตำรวจท่าทางสุภาพ พูดจาอ่อนหวานก็ชอบ แต่เปรียวนั้นแสนจะหมั่นไส้

วันหนึ่งขณะขับแท๊กซี่หาผู้โดยสารอยู่ เปรียวก็ได้ยินเสียงวิทยุจากศูนย์ ให้ไปรับชายคนหนึ่งที่ขับรถเบ็นซ์สปอร์ทแต่ทว่ายางแตกอยู่ที่ถนนสายหนึ่ง เปรียวตอบรับงานนี้เพราะเธออยู่ใกล้ เมื่อไปถึงจึงได้พบกับ อภิเดช หนุ่มรูปงามที่ยืนรอยู่ข้างรถสปอร์ท เธอรับอภิเดชไปส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่เขาบอกว่าจะไปประชุมกับลูกค้าส่วน เรื่องรถที่ยางแตกเดี๋ยวลูกน้องจะมาจัดการ อภิเดชให้ค่ารถ 2,000 บาท ซึ่งเปรียวบอกว่ามากเกินไป แต่เขาก็ขยั้นขยอจะให้ หลังจากนั้นตอนที่เปรียวเอาเงินไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ จึงรู้ว่าเป็นแบ๊งค์ปลอมทั้งสองใบ
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ อภิเดชซึ่งเป็นเจ้าของร้านทอง “ โกลเด้น มายร์” อันเป็นมรดกสืบทอดจากพ่อของเขาคือนายใต้สูน อภิเดชขยายกิจการร้านทองไปทั่วกรุงเทพฯ เท่านั้นไม่พอเขาดำเนินกิจการเป็นเจ้ามือหวยเถื่อนที่มียายสมรเป็นคนเดินโพย คนหนึ่ง ทำกำไรให้อย่างมากมาย ต่อมาเขาก้าวเข้าสู่กิจการพิมพ์แบ๊งค์ดอลล่าร์ปลอมเพื่อการส่งออกตามประเทศ ด้อยพัฒนา

ล่าสุดเมื่อมีความชำนาญมากขึ้นจึงเริ่มกิจการพิมพ์แบ๊งค์พันปลอมของประเทศ ไทย และเงินสกุลอื่นๆในเอเชีย เรื่องนี้นางกิมไล้ แม่ของอภิเดชรู้เรื่องทั้งหมด เธอพยายามห้ามปรามลูกชายแต่ก็ไม่เป็นผล เขาเลือกที่จะไปทางเลว แม้ฐานะจะร่ำรวยกินโต๊ะจีนหูฉลาม เป็ดปักกิ่งทุกวัน แต่กิมไล้ก็ได้แต่หน้าชื่นอกตรม นางกิมไล้อยากให้ลูกชายหยุดพฤติกรรมชั่ว จึงพยายามหาเมียให้ เป็นลูกนักการเมืองและเป็นสาวไฮโซชื่อ สาวิกา อภิเดชก็ตามใจแม่ยอมสนิทสนมด้วยทั้งๆที่ไม่ชอบ แต่เขาก็หวังว่า อิทธิพลของนักการเมืองอาจช่วยเขาได้ในยามมีปัญหา

อภิเดชปฎิบัต ิตัวแบบไฮโซทั่วไป ทุกภัตตาคาร ทุกผับ ต้อนรับเขาอย่างราชาในฐานะขาใหญ่ บ๋อย หรือกับตันที่แสดงอาการไม่ดีลูกน้องอภิเดชจะเรียกไปคุยหลังร้านและตบสั่งสอน คู่ขา และคู่ควงของอภิเดชที่ใครๆเห็นประจำคือ อรอนงค์ สาวร่อนเร่จากร้อยเอ็ด มาเป็นเด็กเสริฟในกรุงเทพฯ แต่รูปร่างดีหน้าตาดีจึงไต่เต้าขึ้นเป็น โคโยตี้ เป็นดาราประจำผับ ด้วยฤทธิ์เสน่ห์และการปรนเปรอทำให้อภิเดชรับเลี้ยงเธอไว้แบบเมียเก็บ และผู้หญิงอีกคนหนึ่งของอภิเดชก็คือ ธารินี น้องสาวของทนงนั่นเอง ธารินีรู้จักกับทนงในผับแห่งหนึ่ง และของานทำภายหลังจากตกเป็นของอภิเดชแล้ว เขาก็ให้ธารินีไปช่วยดูแลกิจการพิมพ์แบ๊งค์ปลอมของเขา ทนงก็สงสัยน้องสาวตัวเองอยู่เหมือนกัน ว่าระยะหลังมีเงินใช้จ่ายมากมาย แต่ธารินีก็บอกว่าเธอขายเครื่องสำอางค์แบบขายตรง ซึ่งจริงๆแล้วอภิเดชไม่ได้รักทั้ง สาวิกา อรอนงค์ และธารินี เพราะคนที่เขารักคือคนขับแท๊กซี่ที่ชื่อว่าเปรียว

อภิเดชจะไม่ค่อยใช้รถ ส่วนตัวในระยะหลัง เขาจะเรียกแท๊กซี่ของเปรียวมาบริการ ถ่วงเวลาให้คอยในคอฟฟี้ช๊อบบ้าง แล้วก็ให้เงินที่เขายืนยันว่าไม่ปลอมแน่นอน เพราะเมื่อเที่ยวก่อนไปได้แบ๊งค์ปลอมมาแต่ไม่รู้ นานเข้าก็ชวนเปรียวกินข้าว ยื่นข้อเสนอว่าจะไถ่จำนองรถแท๊กซี่ของเปรียว เขาก็นัดวันไปทำจริงๆ ทำให้เปรียวกลายเป็นหนี้บุญคุณเขาไปอีก ต่อมาก็ชวนเปรียวไปกินข้าว แวะมาเยี่ยมที่บ้านพบกับแม่ลำไยเพื่อทำความคุ้นเคย นางลำไยก็ต้อนรับอย่างดีแต่ก็บอกกับเปรียวว่า ชอบคนที่เป็นตำรวจมากกว่า ซึ่งหมายถึงทนง
เรื่องที่อภิเดชไปติดใจเปรียวนั้น อรอนงค์รู้เรื่องดี จึงส่งนักเลงไปคอยคุกคาม พยายามทำร้ายข่มขืนเปรียว แต่ทนงก็มาช่วยไว้ได้

หมู่ ทนงสอบได้ปริญญาตรีนิติศาสตร์ สอบได้เป็นตำรวจยศร้อยตรี หลังจากการฝึกภาคสนามของกรมตำรวจ ทนงก็อาสาเข้าทำงานในหน่วยสืบสวนสอบสวนของนครบาล เพราะเขาเป็นคนชอบเสี่ยงชอบผจญภัย งานสืบสวนสอบสวนในหลายคดีของเขาไปได้ดี และงานที่เขาได้รับมอบหมายเป็นพิเศษก็คือการสืบสวนกรณีของอภิเดชในฐานะผู้ ต้องสงสัยในกิจการอันผิดกฏหมายหลายคดี ทนงมีบัดดี้คู่ใจคือ จ่าสมศรี เป็นผู้ชายแต่พ่อแม่ตั้งชื่อไว้เป็นผู้หญิง ลุยงานปราบปรามมาเยอะ ขี้เล่นยิ้มหัวแม้ในยามวิกฤติ

ทนงยังคงติดต่อกับเปรียวอย่างสม่ำเสมอ ส่วนใหญ่จะเป็นการเรียกรถมาใช้บริการ ระยะหลังเปรียวเห็นทนงเปลี่ยนไป คือแต่งตัวเซอร์ๆ นุ่งยีนขาด ใส่เสื้อยืดคลุมทับด้วยแจ๊คเก็ตแบบตำรวจนอกเครื่องแบบทั่วไป จึงสอบถามแต่ทนงไม่อยากให้เปรียวรู้ว่าเขาเป็นตำรวจและอีกอย่างหนึ่งก็ต้อง การจะลองใจ จึงโกหกเปรียวว่าเขาได้ลาออกจากราชการตำรวจแล้ว ปัจจุบันมีอาชีพค้ายาเสพติด เพื่อเร่งหาเงินและคงรวยในไม่ช้า และจะได้เอาเงินไปสู่ขอผู้หญิงผิวขาว หมวย สวย เซ็กที่เขารัก พอรู้เช่นนั้นเปรียวไล่ทนงลงจากรถทันที เพราะเธอไม่ต้องการให้พวกนักค้ายาเสพติดมาใช้บริการของเธอ

เปรียวตัดสิน ใจไปแจ้งความที่ สน.ซึ่งทนงเคยเป็นตำรวจทำงานอยู่ สารวัตรใหญ่ พ.ต.ท. กมล ซึ่งรู้จัก ร.ต.ต.ทนงเป็นอย่างดี ว่าเป็นสายสืบของนครบาล และต้องเข้ามาขอความร่วมมือบ่อยๆ จึงได้แต่หัวเราะ หึ..หึ.. และบอกว่าการแจ้งความเลื่อนลอยแบบนี้ทำไม่ได้ ให้เปรียวไปหาหลักฐานมาก่อนจึงจะรับแจ้งความ เปรียวหงุดหงิดมาก เพราะเธอไม่ต้องการให้มารสังคมอย่างทนงลอยหน้าลอยตาได้อีกต่อไป ทุกครั้งที่ทนงเรียกใช้แท๊กซี่ เธอจะรีบไปรับทันทีเพื่อจะสืบให้ได้ว่า เขาค้ายาเสพติดอย่างไร และไปส่งให้ใครบ้าง

ต่อมาเปรียวทำตัวเป็นมิตรกับทนง ออกตระเวณไปตามที่ต่างๆ แอบเฝ้าสังเกตดูพิรุธ ส่วนทนงก็ค่อยๆถามเรื่องราวเกี่ยวกับ อภิเดช เพราะเขารู้ดีว่าอภิเดชก็มาติดพันเธอและโทรเข้ามาหาเพื่อเรียกใช้บริการรถ บ่อยๆ จนทนงรู้ได้ว่าอภิเดชไปที่ไหนบ้าง และเริ่มออกสืบสวนพร้อมกับจ่าสมศรี
ทางฝ่ายอภิเดชก็รู้ทันในเรื่องนี้ ว่า ทนงกำลังเล่นงานเขาอยู่ เขาจึงส่งอรอนงค์เมียเก็บของเขา ให้มาตีสนิทกับทนง โดยเริ่มแรกจากการไปแจ้งความว่าถูกวิ่งราวเสียแหวนเพชรมูลค่านับล้านที่ไว้ ในกระเป๋าถือ ต่อจากนั้นก็สร้างความสนิทสนม และติดต่อกับทนงเรื่อยมา จุดประสงค์ก็คืออยากรู้ความเคลื่อนไหวของทนง แต่ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรมากนัก จึงวางแผนวางยาทนงและพาเข้าโรงแรม วันต่อมาก็เข้าแจ้งกับกองปราบว่า ทนงข่มขืนเธอ เรื่องนี้ทำให้ทนงถูกพักงานชั่วคราวจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จเรียบร้อย แต่ทนงรู้ว่าตัวเองไม่ผิด จึงฝ่าฝืนออกทำงานต่อ เปรียวเริ่มเข้าใจทนงว่าเขาไม่ได้เป็นคนค้ายาอย่างที่เธอคิด จึงให้ความร่วมมือกับทนงในการจับกุม

บักเคน กับ นางวอน สองพี่น้องขายไก่ย่างไม้ละห้าบาทเป็นแหล่งชุมุนมของแท๊กซี่ มอร์เตอร์ไซด์ ชาวบ้านทั้งรากหญ้าและคนชั้นกลางไม่เว้นแม่แต่พวกขับรถหรูและน้องหมาข้าง ถนน แวะเวียนซื้อไก่รอกินไก่และข้าวเหนียวของสองพี่น้อง เปรียวคือหนึ่งในนั้น ทนงก็เช่นกัน เพราะที่นั่นคือแหล่งข่าวชั้นดีของทั้งสอง และแหล่งนินทากาเลอีกแห่งหนึ่งของคนย่านนั้น วอนกับเคนจะรู้เห็นหมดผิดบ้างถูกบ้างต่อเติมบ้าง แต่ก็มีมูลความจริงเป็นพื้นฐาน
ร.ต.ต.ทนง เปรียว และจ่าสมศรีเป็นทีมเดียวกัน สามารถเข้าจับแหล่งหวยเถื่อนได้ก่อน พร้อมคนเดินโพยหลายคนรวมทั้งยายสมรด้วย ต่อมาก็ทะลายแหล่งพิมพ์แบ๊งค์ปลอมได้ที่ร้านเกมส์แห่งหนึ่งซึ่งชั้นบนเป็น โรงพิมพ์ พร้อมหลักฐานมากมาย แต่...เขาก็ต้องจับ ธารินี น้องสาวของเขาด้วยเพราะอยู่ในโรงพิมพ์แบ๊งค์ขณะเข้าจับ ทนงเจ็บช้ำใจมาก คดีข่มขืนอรอนงค์ยังสอบสวนอยู่ นี่ก็เกิดมีคดีใหม่ที่น้องสาวตัวเองมีส่วนร่วมในการพิมพ์ธนบัตรปลอม
น้องก็ยังเป็นน้อง ธารินี ระหว่างถูกควบคุมตัวอภิเดชไม่เคยเหลียวแล แต่ส่งลูกน้องมาข่มขู่ทุกวันว่าถ้าเผยความจริงเมื่อไหร่ ตายเมื่อนั้น เธอจึงตัดสินใจเผยความจริงทั้งหมดว่าอภิเดชเป็นตัวการใหญ่

ทนงเริ่มออกล่าอภิเดช เพราะรู้ว่าเขากำลังจะเดินทางออกนอกประเทศ ดักจับได้กลางทางเกิดการยิงต่อสู้กัน อภิเดชถูกยิงเสียชีวิต อรอนงค์รู้ข่าวก็มาดูศพ ร้องไห้ร้องห่ม เธอรับโทษสถานเบาในข้อหาแจ้งความเท็จ
เชิงชาย นักข่าวอาชญากรรม เรียนคณะเดียวกันกับเปรียว เป็นพวกเรียนเป็นงานอดิเรกทำงานเป็นหลัก จึงเป็นนักศึกษาโค่ง โดนรีไทร์ไปแล้วก็หวนกลับมาเรียนใหม่ เป็นพวกกวนโอ๊ยเป็นคู่ปรับของทนง แอบชอบเปรียว ภายหลังสนิทกับเปรียว เปรียวหมั่นไส้ทนงจึงมักแอบให้ข่าวสำคัญกับเชิงชายแทนที่จะให้ทนง ทำให้ทนงไม่ชอบหน้าเชิงชาย เชิงชายก็ไม่ชอบหน้าทนง ซึ่งต่อมาได้เป็น ร.ต.ท.หรือหมวดทนง และได้แต่งงานกับเปรียวในที่สุด

ก๊วนกามเทพ


เรื่องย่อ ละคร ก๊วนกามเทพ นำเสนอทางช่อง 3 จันทร์-ศุกร์

ละครชีวิตเรื่องราวความรักที่ไม่ลงตัวระหว่างสาวหัวนอกเปรี้ยวจี๊ดกับชายหนุ่มผู้เคร่งครัดในการดำเนินชีวิต

ดวงดาว พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อผลักดัน เกษรา บุตรสาวคนเดียวของตนให้เป็นสะใภ้ของ ตระกูลอภิบูรณา หลังจากที่ตัวเองเคยพลาดหวังมาแล้วในอดีต ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงเกษราสาวฝรั่งจ๋าที่เพิ่งกลับจากเมืองนอกให้เป็น กุลสตรีไทยที่เพียบพร้อมก็เริ่มขึ้น โดยมีอดีตครูมืออาชีพ เพลินตา สมพร และ นวลน้อย คอยช่วยเหลือ

ในที่สุดหญิงสาวก็สามารถฝ่าฟันอุปสรรคเข้าไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูร ณาได้ โดยแต่งงานกับ วาทิต ชายหนุ่มที่ดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบอย่างเคร่งครัด ท่ามกลางความไม่พอใจของ เรือนทอง ผู้เป็นยายของเกษรา และ ไพลิน ผู้เป็นย่าของวาทิต รวมถึงตัววาทิตเองที่ยอมแต่งงานกับเกษราเพียงเพื่อพยุงฐานะของอภิบูรณาไว้ เกษราจึงเป็นเพียงสะใภ้แต่ในนามโดยที่เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาทิตฉันท์สามี ภรรยาทั่วไป

ด้วยอุปนิสัยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงของเกษราและวาทิต ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องขัดแย้งกันอยู่บ่อยครั้งแต่ความใกล้ชิดก็ทำให้คนทั้ง สองเริ่มเห็นคุณค่าของกันและกันจนก่อเกิดเป็นความรัก

ความรักของคนทั้งคู่น่าจะจบลงด้วยดี หาก โรเจอร์ แฟนเก่าของเกษราไม่กลับมาหา ทำให้วาทิตหึงหวงปลุกปล้ำหญิงสาว ความสัมพันธ์ที่ดีของคนทั้งคู่จึงมีอันขาดสะบั้นลง

เรื่องราวความรักของคนทั้งคู่จะลงเอยอย่างไร เขาทั้งสองจะประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ ติดตามได้ใน “ก๊วนกามเทพ”

เรื่องย่อ: ก๊วนกามเทพ

บทประพันธ์ วัตตรา
บทละครโทรทัศน์ ปณธี - ภควดี
กำกับการแสดง วีระชัย รุ่งเรือง
ผลิตโดย บริษัท ดวงมาลีมณีจันทร์ จำกัด
ผู้จัด จันทร์จิรา จูแจ้ง
ออกอากาศ ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 19.15 น.ทางช่อง 3 ต่อ เทพบุตรชุดวิน

ถึงแม้ ดวงดาว บุตรสาวคนโตจาก ตระกูลทรัพย์สถิตย์ จะเคยพลาดหวังจากการเป็นสะใภ้แห่ง อภิบูรณา มาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากที่ ไพลิน แม่ของ รองเมือง ไม่ยอมมาสู่ขอเธอให้กับรองเมืองบุตรชาย แต่กลับไปรับ วารี ลูกผู้ดีเก่า มาเป็นสะใภ้แทน แต่ดวงดาวก็ยังคงรักษาคำมั่นสัญญาที่ ก้องไกร ผู้เป็นสามีเคยบอกยก เกษรา บุตรสาวเพียงคนเดียวให้ไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาตกแต่งกับ วาทิต ลูกชายของรองเมืองและวารีให้ได้ ถึงแม้คุณ เรือนทอง ผู้เป็นยาย ดวงเดือน และ ดวงแก้ว ผู้เป็นน้าของเกษราจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของดวงดาวก็ตาม เพราะยังเจ็บแค้นใจไม่หาย ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมานานแล้วก็ตาม แต่ดวงดาวก็ยังคงยืนยันที่จะให้เกษราพิสูจน์ถึงคุณค่าของหญิงสาวแห่งตระกูล ทรัพย์สถิตย์ให้ได้ ทั้งยังเป็นการรักษาคำมั่นของผู้เป็นสามีอีกด้วย

เรือนทองรู้สึกผิดไม่น้อย ที่ส่งเกษราไปเรียนต่อที่เมืองนอกเสียนาน เพื่อเป็นการถ่วงเวลาไม่อยากให้เกษราแต่งงานกับวาทิต เพราะหลังจากที่เกษราเดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส เกษราก็กลายเป็นสาวฝรั่งจ๋า เปรี้ยวจี๊ด ชนิดที่ไม่เหลือความเป็นกุลสตรีไทยเอาไว้เลย ดวงดาวจึงเริ่มปฏิบัติการขั้นแรก ด้วยการหาครูมาอบรมขัดเกลากิริยา

มารยาทของเกษราเสียใหม่ โดยมี เพ็ญแข อดีตครูใหญ่ที่ผันตัวเองมาเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของคุณเรือนทอง หลังจากที่โรงเรียนได้ถูกปิดลง รับอาสาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำหน้าที่นี้เอง เพ็ญแขพยายามส่งครูฝีมือดีมาอบรมเกษราแล้วหลายคนด้วยกัน แต่ทุกคนก็ต้องถอยร่นกลับไป ด้วยเพราะทนฤทธิ์เดชของเกษราไม่ไหว สุดท้ายเพ็ญแขจึงต้องดั้นด้นไปตามหาบรรดาครูเพื่อนเก่า ซึ่งแต่ละคนก็มีฝีไม้ลายมือระดับเจ้าของรางวัลกันทั้งนั้น แล้วเธอก็ได้พบกับครู เพลินตา เป็นคนแรก ซึ่งในอดีตเพลินตาเคยพานักเรียนไปกวาดรางวัลการประกวดปรุงและตกแต่งอาหาร ระดับประเทศมาหลายรางวัล แต่ปัจจุบันสาวใหญ่ก็กลายเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งอยู่ในตลาดโดยมี สายไหม น้องสาวเป็นผู้ช่วยไปเสียแล้ว ครู สมพร ซึ่งเป็นครูสอนวัฒนธรรมไทย และมารยาทที่เคยพาเด็ก ๆ ไปกวาดรางวัลการประกวดมารยาทดีเด่นมาแล้วก็กลายเป็นเจ้าของ ค่ายมวยสมพรยิม สืบทอดกิจการครอบครัวหลังจากที่พ่อของเธอเสียชีวิตลง ส่วนครู นวลน้อย อดีตครูสอนนาฏศิลป์ก็กลายเป็นครูสอนหางเครื่องรำซิ่งโชว์ตามคาเฟ่ให้กับ โชค ผู้เป็นหลานชาย เพ็ญแขเริ่มหมดหวังจากเพื่อน ๆ ทั้งสามของเธอ เพราะนอกจากทุกคนจะไม่เหลือคราบความเป็นครูคนเก่าอีกแล้ว แต่ละคนก็แทบจะไม่อยากกลับไปเป็นครูเหมือนดังเดิมอีก มีเพียงค่าตอบแทนที่เพ็ญแขนั้นเสนอเอาไว้ชนิดที่เรียกว่าสูงลิบ เพื่อจูงใจเพื่อน ๆ ให้กลับมาทำงานในหน้าที่เหมือนเดิมเท่านั้นที่ทิ้งไว้ให้ทุกคนคิด แล้วเพ็ญแขก็เดินทางกลับมากรุงเทพฯ ด้วยความหวังที่เลือนราง








รอง เมืองตั้งใจที่จะให้วาทิตแต่งงานกับเกษราเหมือนเดิม เพราะนอกจากจะเป็นการรักษาสัญญากับเพื่อนเก่าอย่างก้องไกรแล้ว เขายังสำนึกในบุญคุณในครั้งที่ก้องไกรยังมีชีวิตอยู่ และได้เกื้อกูลช่วยเหลือเขาเรื่องเงินทองจนสามารถมีฐานะอยู่ได้ดีจนถึงทุก วันนี้ เมื่อรองเมืองรู้ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเกษราได้เดินทางกลับมาจากต่าง ประเทศแล้ว เขาจึงไม่รอช้ารีบเชิญเกษรามาทานข้าวที่อภิบูรณาทันทีเพื่อเป็นการดูตัวและ ผูกสัมพันธ์ของคนทั้งสองตระกูลเข้าด้วยกัน แต่ทุกอย่างก็กลับดูเหมือนจะไม่เป็นใจเพราะทั้งไพลินประมุขแห่งอภิบูรณา ซึ่งเป็นผู้ดูแลอภิบูรณาอยู่ขณะนี้ และ รำไพ ผู้เป็นป้าหัวโบราณที่ประชดไพลินด้วยการไม่ทำอะไร นอกจากใช้สมบัติเก่าไปวัน ๆ เพราะไพลินบังคับให้เธอแต่งงานกับคนลวงโลกพ่อของ รุ่งทิวา จนชีวิตครอบครัวของเธอต้องพังทลายลง รพีพรรณ ผู้เป็นอาของวาทิต ซึ่งชอบเข้าสังคมและพูดคุยแต่เรื่องนินทาว่าร้ายชาวบ้านตลอดเวลา ทำตัวไร้สาระไปวัน ๆ ก็แสดงท่าทีไม่ชอบใจเกษราตั้งแต่แรกเห็น ที่สำคัญเธอไม่อยากให้คนของทรัพย์สถิตย์มาร่วมใช้นามสกุลเดียวกับเธอรวมไป ถึงวาทิตด้วย เพราะนอกจากเกษราจะไม่มีกิริยามารยาทเหมือนกุลสตรีไทยแล้ว เธอยังแต่งตัวเป็นสาวเปรี้ยวจัดชนิดที่ชายหนุ่มทนรับไม่ไหว ผิดกับเขาที่เป็นคนคร่ำเคร่งอยู่ในกฎระเบียบแห่งชีวิต ยิ่งถ้าเปรียบเทียบกับ กิ่งแก้ว เพื่อนอาจารย์ในมหาวิทยาลัยซึ่งมีความงามพร้อมแล้วเกษราก็ตกรอบแรกไปเลย แต่เมื่อกลับมาถึงบ้านความหวังที่เกษราจะได้เป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาก็เรือง รองขึ้นมาทันที เมื่อสามอาจารย์เดินทางมาที่ทรัพย์สถิตย์พร้อม ๆ กัน ถึงแม้แต่ละคนจะแสดงท่าทีไม่ลงรอยกันเพราะต่างคนต่างมั่นใจในความเป็นหนึ่ง ของตัวเอง แต่ทุกคนก็เริ่มทำงานด้วยความตั้งใจ แม้จะต้องล่าถอย อ่อนใจไปบ้างในบางครั้ง เมื่อเกษราออกฤทธิ์ทำท่าไม่สนใจเรื่องวิชาความรู้ต่าง ๆ ที่อาจารย์ทั้งสามสอนให้ จะลุกจะนั่งก็ดูขัดหูขัดตา แถมยังแต่งตัวหวือหวาไปซะทุกอย่าง ซ้ำยังชอบชวนอาจารย์ทั้งสามออกไปท่องราตรีในยามค่ำคืน

เกษราถูกเรียกตัวไปที่อภิบูรณาบ่อยครั้งขึ้น เพื่อทดสอบเรื่องกิริยามารยาท ซึ่งเกษราเองก็แสนจะเบื่อหน่าย ในการที่คุณไพลินจะต้องทานอาหารตำรับชาววังแทบทุกมื้อ ต้องฟังดนตรีไทย บางครั้งก็จะมีทั้งรุ่งทิวาบุตรสาวของรำไพและกิ่งแก้วมาคอยบรรเลงให้ฟัง แถมเธอยังต้องอ่านหนังสือให้คุณย่าไพลินฟังอีก แต่ความน่าเบื่อหน่ายเหล่านี้ก็ค่อย ๆ จืดจางลงเมื่อเกษราได้พบกับ คุณปู่พจน์ ซึ่งป่วยเป็นอัมพาตอยู่ที่เรือนหลังเล็ก เธอมีโอกาสได้พูดคุยกับชายชราด้วยบ่อยครั้ง จนกลายเป็นความผูกพัน เพราะนอกจากวาทิตแล้วสมาชิกในบ้านอภิบูรณาไม่เคยมีใครหันมาสนใจดูแลปู่พจน์ เลย เมื่อวาทิตได้รู้จากผู้เป็นปู่ว่าเกษรามักจะมานั่งเป็นเพื่อนคุยคลายเหงา ชายหนุ่มจึงเริ่มมองหญิงสาวในทางที่ดีขึ้น ยิ่งเมื่อวันที่เขาเกิดล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน เกษราก็รีบพาเขาไปหาหมอและดูแลปรนนิบัติอย่างดี จึงยิ่งทำให้ชายหนุ่มเห็นความดีและความอ่อนหวานในตัวเกษรามากยิ่งขึ้นไปอีก

ครูทั้งสามต่างก็แข่งกันที่จะสอนให้เกษราเรียนได้ดีที่สุดในวิชา ของตนเอง ถึงแม้บางครั้งจะถูกดวงเดือนกับดวงแก้วคอยขัดขวางการเรียนการสอนอยู่บ้าง เพราะผู้เป็นน้าก็เห็นด้วยกับเรือนทองที่ไม่ต้องการให้หลานสาวตกไปเป็นสะใภ้ ของบ้านอภิบูรณา ทั้ง เพลินตา สมพร และนวลน้อย ต่างก็พยายามที่จะให้ตนเองได้เป็นครูเพียงคนเดียวของเกษราเพื่อที่จะได้เงิน ก้อนโตตามที่เพ็ญแขเคยเสนอให้ไปจัดการหนี้สินของตนเองเกษรารับรู้ถึงปัญหา นี้จึงอาสาที่จะขอเงินพิเศษเพิ่มให้จากเพ็ญแข ทำให้ครูทั้งสามเพิ่มความรักในตัวเกษรามากขึ้นและยอมร่วมมือกันที่จะทำให้ ลูกศิษย์ของตนเองเข้าไปเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณาให้ได้

ในงานเลี้ยงฉลองแซยิดคุณไพลิน เกษรากับอาจารย์ทั้งสามต้องกลายเป็นแม่งานไปโดยปริยาย หลังจากที่รำไพและรพีพรรณวางแผนให้ เอียด แม่บ้านใหญ่และ ล้อม ผู้เป็นหลานสาวลาพักร้อน แล้วแกล้งโทร.ไปปรึกษากับดวงดาวเรื่องงานเลี้ยง ดวงดาวเองก็ได้โอกาสที่จะโชว์ฝีมือของลูกสาวจึงตกปากรับคำให้เกษราเป็นแม่ งานในครั้งนี้ เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่าเกษราเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้แห่งอภิบูรณา
เรือน ทองไม่ยอมไปร่วมงานครั้งนี้ และยังยืนยันที่จะไม่ร่วมวงศ์ตระกูลกับอภิบูรณาเหมือนดั่งเดิม เพลินตา สมพร และ นวลน้อย ช่วยกันเนรมิตงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยมีรุ่งทิวายื่นมือมาช่วยเรื่องงานครัวบ้าง จึงทำให้เธอสนิทสนมกับเกษรามากยิ่งขึ้น กิ่งแก้วแสดงการรำอวยพรเพื่อเป็นของขวัญให้กับไพลิน ซึ่งก็ทำให้คุณย่าชอบใจไม่น้อย วาทิตเองก็พลอยทึ่งในความสามารถของหญิงสาวไปด้วย ส่วนเกษรานั้นเตรียมการรำฉุยฉายเอาไว้ แต่เกิดความผิดพลาดชุดเกิดหายไปอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอจึงต้องโชว์จินตลีลาเพลงบัวขาวแทน โดยมีครูทั้งสามช่วยกันร้องเพลงสดให้ แต่เหมือนโชคเข้าข้าง เพราะเพลงบัวขาวคือเพลงโปรดของไพลิน สร้างความประทับใจให้กับหญิงวัยกลางคนไม่น้อย วาทิตเองก็เริ่มทึ่งและพึงใจในตัวของเกษรา มีเพียงแต่กิ่งแก้วเท่านั้นที่ไม่พอใจกับภาพที่หล่อนได้เห็น

งานแต่งงานของเกษรากับวาทิตถูกจัดขึ้นในเวลาต่อมา ทั้ง ๆ ที่ไพลินก็ยังไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นัก วาทิตเองก็ทำไปเพื่อไม่ต้องการได้ชื่อว่าเป็นลูกที่อกตัญญู ดวงดาวมั่นใจว่าลูกสาวของตนเองนั้นจะเป็นสะใภ้ที่ดีได้ เรือนทองมอบที่ดินผืนใหญ่ให้เป็นของขวัญในวันแต่งงาน ซึ่งก็ถึงกับทำให้รำไพและรพีพรรณอิจฉาในความร่ำรวยอย่างแท้จริงของบ้าน ทรัพย์สถิตย์ ส่วนกิ่งแก้วนั้นก็มีความหวังว่าทั้งสองจะต้องหย่าขาดจากกันในเวลาไม่นาน หลังจากที่รำไพและรพีพรรณได้พูดให้ความหวังว่าทั้งสองคนไม่ได้รักกัน ที่วาทิตแต่งงานด้วยเพียงเพื่อต้องการพยุงฐานะของอภิบูรณาไว้เท่านั้น เกษราเองก็เป็นเพียงสะใภ้แต่ในนาม เธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับวาทิตฉันท์สามีภรรยาทั่วไป









เก ษราขอเวลาในการปรับตัวและทำใจเป็นเวลาสามเดือน เพราะเธอเองก็อึดอัดในความเป็นระเบียบและชีวิตที่อยู่แต่ในกรอบของวาทิต ยังดีที่เธอนั้นมีคุณปู่พจน์เป็นเพื่อนคอยพูดคุยอยู่เสมอ บางครั้งครูทั้งสามก็มาเยี่ยมและขออนุญาตพาหญิงสาวออกไปเที่ยวข้างนอกบ้าน บ้างทำให้คลายเครียดลงไป ครูทั้งสามก็พลอยหลงใหลในแสงสียามค่ำคืนไปกับเกษราด้วย ไพลินเองก็เริ่มพึงใจกับหลานสะใภ้คนนี้ เพราะทุกครั้งที่เกษราออกไปนอกบ้าน เธอก็จะมีของติดไม้ติดมือกลับมาฝากทุกคนในบ้าน ซึ่งแสดงถึงความมีน้ำใจได้อย่างชัดเจน และความที่เกษรานั้นทำตัวตามสบาย ไม่ต้องเคร่งเครียดกฎระเบียบเหมือนกับคนในบ้าน ทำให้ทุกอย่างดูผ่อนคลายไปด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น รุ่งทิวาก็จะคอยตักเตือนเกษราเสมอว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรที่จะปฏิบัติในอภิ บูรณา

ไพลินมีอาการเครียดจัด เมื่อเธอขาดส่งบ้านและที่ดินที่เอาไปจำนองไว้กับธนาคาร ส่วนทรัพย์สินภายในบ้านรองเมืองก็นำออกไปขายจนแทบเกลี้ยง วาทิตเองก็พลอยเงียบขรึมเพราะกังวลไปด้วย มีแต่รำไพที่ขอเดินทางไปต่างประเทศกับบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โดยอ้างว่าไม่อยากให้ใครรู้ถึงฐานะที่ตกต่ำภายในบ้าน ส่วนรพีพรรณก็มุ่งเอาแต่ออกงานสังคมโดยไม่มองฐานะของตนเอง ทิ้งให้รุ่งทิวาเป็นคนดูแลไพลินเพียงลำพัง เกษรานั้นเข้าใจดีถึงสถานการณ์ทุกอย่าง เพราะเธอแอบได้ยินไพลินพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยบังเอิญ เกษราจึงให้เรือนทองผู้เป็นยายรับซื้อบ้านและที่ดินเอาไว้เมื่อมีเจ้า หน้าที่ธนาคารนำมาเสนอขายกับเพ็ญแข โดยที่คนของอภิบูรณาไม่มีโอกาสได้รับรู้เลย

กิ่งแก้วไม่ละความพยายาม เธอยังคงเข้ามาวุ่นวายกับวาทิตอยู่เสมอ จนรุ่งทิวาเองอดเป็นห่วงไม่ได้ หญิงสาวจึงตักเตือนวาทิตให้บอกกับกิ่งแก้วว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายเรื่องราวภาย ในบ้านมากนักซึ่งวาทิตเองก็รู้ทุกอย่างดีแต่ก็ไม่อาจจะพูดกับเธอได้ ชายหนุ่มจึงเริ่มเห็นอกเห็นใจเกษรามากยิ่งขึ้น เรือนทองได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินของอภิบูรณาทั้งหมดโดยที่ไม่มีใครในบ้านของ วาทิตรับรู้เลยแม้กระทั่งตัววาทิตเอง ชายหนุ่มมักจะแวะไปเยี่ยมเยือนเรือนทองอยู่เสมอจึงทำให้หญิงวัยกลางคนเริ่ม รักใคร่ในตัวของหลานเขยคนนี้ เรือนทองสั่งให้เพ็ญแขชี้แจงเรื่องธุรกิจตึกแถว ห้องเช่า และที่ดินต่าง ๆ ให้วาทิตรับรู้ แรก ๆ วาทิตนั้นไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย แต่เรือนทองหาทางออกด้วยการเสนอเงินเป็นค่าตอบแทนให้ ทำให้วาทิตสบายใจขึ้น เขาตั้งอกตั้งใจที่จะช่วยเรือนทองดูแลเรื่องทรัพย์สมบัติอย่างดี ซึ่งก็สร้างความพอใจให้กับเรือนทองเป็นอย่างมาก เพราะอย่างน้อยแผนการที่ใช้ลองใจของวาทิตเรื่องการดูแลทรัพย์สินก็ประสบความ สำเร็จไปแล้วหนึ่งอย่าง เรือนทองไม่ห่วงอีกต่อไปหากวันหนึ่งวาทิตจะเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินของเธอทั้ง หมด เพราะเขาจัดว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีนิสัยดี ซื่อสัตย์คนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อวาทิตได้มีโอกาสใกล้ชิดกับคนของทรัพย์สถิตย์ เขาก็เริ่มคุ้นเคยสนิทสนมกับทุกคนในบ้านในเวลาเพียงไม่นาน รวมถึงครูทั้งสามของเกษราด้วย ทำให้ชายหนุ่มเริ่มมองเกษราในแง่มุมที่ดีขึ้นมาอีก

ยังไม่ทันที่ความสัมพันธ์ของเกษรากับวาทิตจะดำเนินไปด้วยดี โรเจอร์ คนรักเก่าของเกษราก็เดินทางกลับมาจากฝรั่งเศส โรเจอร์ตัดพ้อต่อว่าที่เกษราแต่งงานอย่างกะทันหัน และไม่ยอมบอกกับเขาเพราะหญิงสาวเคยให้สัญญากับชายหนุ่มว่าจะให้คำตอบเรื่อง ความรักกับเขาก่อน เกษราให้ความสนิทสนมกับโรเจอร์ด้วยความจริงใจ เพราะครั้งหนึ่งหญิงสาวเคยไปอาศัยอยู่ที่บ้านของโรเจอร์ครั้งที่ไปเรียนต่อ ที่เมืองนอก เธอจึงให้โรเจอร์เข้ามาพักอยู่ในบ้านทรัพย์สถิตย์ ระหว่างที่มาเที่ยวเมืองไทย ด้วยความเป็นห่วงครูทั้งสามจึงออกปากตักเตือนด้วยความหวังดีเพราะเกรงว่าเก ษราจะผิดใจกับวาทิต แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้กับเกษราเป็นอย่างมาก ครูทั้งสามน้อยใจมากจึงถือโอกาสลาเพ็ญแขกลับบ้านโดยทั้งสามให้เหตุผลว่าหมด หน้าที่ของพวกเธอแล้ว เกษราพาโรเจอร์ไปทานข้าวที่บ้านอภิบูรณาและได้พบกับกิ่งแก้วซึ่งนั่งเคียง คู่อยู่กับวาทิต ทำให้ไพลินกระอักกระอ่วนใจมากกับภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในบ้าน กิ่งแก้วเองก็เกิดการปะทะคารมกับโรเจอร์ วาทิตก็รู้สึกเสียหน้าอย่างแรงจึงมีเรื่องทะเลาะกับเกษรา ทุกอย่างจึงดูยุ่งเหยิงไปหมดประจวบกับที่เรือนทองป่วยหนัก เกษราจึงต้องกลับไปดูแลยายที่บ้านบ่อยครั้ง ทำให้ทั้งสองห่างเหินกัน วาทิตเข้าใจเกษราผิดมากขึ้นไปอีก เพราะเข้าใจว่าผู้เป็นภรรยานั้นกลับไปคบหากับแฟนเก่าเหมือนดั่งเดิมถึงขนาด ไม่มีเวลากลับมาหาตนที่บ้านอีก รำไพกับรพีพรรณได้ที ก็ยุให้วาทิตหย่าขาดกับเกษรา ซึ่งกิ่งแก้วเองก็เห็นดีด้วยจึงตามไปต่อว่าเกษราถึงที่บ้าน และบังเอิญได้พบกับโรเจอร์ทั้งสองจึงปะทะคารมกันอีก โรเจอร์นั้นไม่ยอมแพ้เขาตามไปหาเธอถึงมหาวิทยาลัย ถึงแม้จะมี รัศมี เพื่อนขาเม้าท์คนสนิทของกิ่งแก้วคอยกีดกัน หนุ่มตาน้ำข้าวตามกิ่งแก้วจนไปถึงที่บ้านและได้ทำความรู้จักกับพ่อและแม่ของ เธอ ด้วยเพราะเขาเริ่มพอใจในตัวอาจารย์สาวผู้นี้เข้าเสียแล้ว ความมึนตึงประชดประชันระหว่างสองสามีภรรยาทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด วาทิตกล่าวหาว่าเกษราจะกลับไปคืนดีกับโรเจอร์ ส่วนเกษราเองก็ต่อว่าชายหนุ่มที่ต้องการจะหย่าขาดจากเธอก็เพื่อไปแต่งงาน ใหม่กับกิ่งแก้วและจะเอาสมบัติมากู้ฐานะบ้านอภิบูรณาด้วยหลังจากที่เขาและ เธอได้หย่าขาดจากกัน ด้วยความโกรธที่ถูกเกษราต่อว่าชายหนุ่มจึงขาดสติปลุกปล้ำหญิงสาวในคืนนั้น และเขาก็ได้รู้ว่าเกษราเป็นหญิงสาวที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่ใช่สาวเปรี้ยว หัวนอก เหมือนกับภาพที่ทุกคนมองเห็น

เกษรากลับมาอยู่บ้านทรัพย์ สถิตย์ด้วยหัวใจที่ชอกช้ำและผิดหวังใน ตัววาทิต เธอสารภาพกับโรเจอร์ว่าสามารถมอบเพียงความเป็นเพื่อนให้กับโรเจอร์ได้เท่า นั้น ซึ่งชายหนุ่มเองก็เข้าใจดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือเกษราเมื่อรู้ว่าเธอกำลัง มีปัญหากับวาทิต โรเจอร์ไปพูดตักเตือนให้กิ่งแก้วได้คิดอีกว่า ยังมีคนใกล้ตัวกิ่งแก้วอีกคนที่ยังสนใจเธออยู่ สร้างความงุนงงให้กับหญิงสาวเป็นอย่างยิ่ง หนุ่มตาน้ำข้าวตัดสินใจออกจากบ้านทรัพย์สถิตย์ แล้วย้ายไปอยู่บ้านใกล้ ๆ กับบ้านของกิ่งแก้วในเวลาต่อมา ชายหนุ่มจึงเริ่มตามจีบกิ่งแก้วอย่างเป็นจริงเป็นจัง

เกษราตามไปขอ ขมาครูทั้งสาม ซึ่งทั้งเพลินตา สมพร และ นวลน้อย ก็ยังคบหากันอยู่เหมือนเดิม ไม่ว่าวันใดที่นวลน้อยนึกอยากกินอะไรขึ้นมาก็จะให้เพลินตาทำให้ทาน โดยมีโชคขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับกับข้าวมาให้ ซึ่งก็เป็นเหตุให้โชคได้รู้จักกับสายไหมน้องสาวของเพลินตาที่มีฝีไม้ลายมือ เรื่องทำกับข้าวไม่แพ้ผู้เป็นพี่สาว ด้วยความเจ้าชู้ของโชคเขาก็ออกลวดลายจีบสายไหมเข้าทันที แต่เพลินตานั้นไม่ชอบใจจึงคอยขัดขวาง ทำเอาชายหนุ่มนึกเกรง ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เมื่อมีเกษรามาเป็นแขกที่บ้าน โชคก็เลิกสนใจสายไหมทันทีและหันมาจีบเกษราอย่างจริงจัง แต่เการาก็ไม่ได้ถือสา ปล่อยให้โชคพร่ำเพ้อไปแต่เพียงคนเดียว







ปู่พจน์ป่วยหนัก เฝ้าเรียกหาแต่เกษรา ชายชราขอร้องให้ทุกคนในบ้านเลิกทำท่ารังเกียจสะใภ้หัวนอกคนนี้ แถมขอร้องให้รำไพและรพีพรรณเลิกใช้จ่ายฟุ่มเฟือย จนทำให้อภิบูรณามีปัญหาเรื่องการเงิน เมื่อความลับนี้ถูกเปิดเผยขึ้น ทั้งสองคนจึงถูกไพลินต่อว่าจนต้องยอมรับผิด ปู่พจน์มอบที่ดินผืนสำคัญที่เก็บไว้ตั้งแต่ยังหนุ่มให้กับวาทิตเพื่อนำไปขาย แล้วเอาเงินไปไถ่บ้านและที่ดินคืนจากเรือนทอง ไพลินตกใจมากที่สามีล่วงรู้ความลับอันนี้จึงรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถปกป้อง ทรัพย์สมบัติของตระกูลเอาไว้ได้ เรือนทองเองเมื่อหายจากอาการป่วยก็เดินทางไปที่อภิบูรณาทันที สอบถามเอาความจริงจากวาทิตว่ายังรักหลานสาวของเธออยู่หรือไม่ เพราะอย่างไรเสียเกษรากับวาทิตก็จะได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมดอยู่ดี แต่หากวาทิตหมดรักในตัวเกษราแล้วเธอก็จะขายบ้านและที่ดินคืนให้ แต่ไม่มีคำตอบใด ๆ ออกมาจากปากวาทิต ทำให้ทุกคนในบ้านสงสัยถึงความในใจที่เขามีต่อเกษรา

เมื่อวาทิตนึกทบทวนถึงความรู้สึกที่แท้จริงที่เขามีต่อเกษรา ชายหนุ่มจึงตัดสินใจขายที่ดินย่านชานเมืองแล้วนำเงินไปซื้อบ้านและที่ดินของ อภิบูรณาคืน เรือนทองเสียใจมากที่วาทิตไม่สามารถกลับมาคืนดีกับเกษราได้อีกจึงจำใจขาย ทรัพย์สินนั้นคืนให้วาทิตไป ในขณะที่เรือนทองและเพ็ญแขกำลังกลุ้มอกกลุ้มใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพลินตาก็มาปรากฏตัวที่บ้าน เพราะเธอเองก็อดสงสัยในพฤติกรรมของเกษราไม่ได้ ที่ไปขอพักอาศัยอยู่กับตนที่ต่างจังหวัด และไม่เคยพูดถึงวาทิตเลย จึงลงทุนมาสืบเรื่องราวด้วยตนเอง ทั้งเรือนทองและเพ็ญแข จึงเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับเพลินตาได้รับรู้ วาทิตไปหากิ่งแก้วที่บ้านและได้รู้ว่าเธอได้ติดบ่วงดวงใจของโรเจอร์เข้าให้ แล้ว หญิงสาวจึงสารภาพกับชายหนุ่มว่าจะไปอยู่เมืองนอกกับโรเจอร์ในอนาคต โรเจอร์เองก็บอกกับวาทิตว่าเกษรานั้นมีใจรักต่อวาทิตอย่างแท้จริง สองหนุ่มเกิดความเข้าอกเข้าใจและจับมือแสดงความเป็นมิตรต่อกัน

วาทิตได้พบกับเพลินตาและได้รับรู้เรื่องราวของเกษราทั้งหมดขณะที่ ไปอยู่กับครูทั้งสาม ชายหนุ่มจึงรีบกลับไปที่บ้านและบอกกับผู้เป็นย่าว่าจะไปสู่ขอหญิงสาวคนหนึ่ง แต่งงาน โดยให้ย่าไปเป็นผู้ใหญ่ให้ ไพลินเข้าใจว่าวาทิตจะไปขอกิ่งแก้วมาเป็นสะใภ้ จึงออกปากปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมให้ใครมาเป็นสะใภ้อีกนอกจากเกษรา เพราะอย่างไรเสียเธอก็เป็นเด็กสาวที่มีจิตใจงดงามคนหนึ่งเลยทีเดียว เมื่อไม่มีเกษราอยู่ในบ้านก็พลอยทำให้ทุกอย่างเงียบเหงากลับไปสู่บรรยากาศ แบบเดิม ๆ

โชคยังตามตื้อเกษราอย่างไม่ย่อท้อ ท้ายสุดเกษราจึงบอกกับเขาว่า เธอแต่งงานแล้ว และไม่สามารถปันใจให้กับชายอื่นได้อีกนอกจากวาทิต และคิดกับโชคเพียงแค่พี่ชายคนหนึ่งเท่านั้น ขอให้เขากลับไปให้ความสำคัญและดูแลสายไหมเหมือนดั่งเดิม โชคจึงได้คิดและหวนกลับไปหาสายไหมอีกครั้ง วาทิตลงทุนติดตามเพลินตาไปงอนง้อขอคืนดีกับเกษราถึงอ่างทอง แต่ไม่ว่าอย่างไรเกษราก็ไม่คลายความโกรธไปได้เสียที จนชายหนุ่มท้อใจเดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างหมดหวัง ทำให้ครูทั้งสามของเกษราพลอยเศร้าใจไปด้วย

ครูเติม เพื่อนครูซึ่งรู้จักคบหากับครูสมพรมาเป็นเวลานานก็อดเป็นห่วงสาวใหญ่ไม่ได้ ที่เป็นกังวลเรื่องของเกษราจนทำให้เครียดจัด ครูเติมจึงคอยเฝ้าปลอบใจและสารภาพว่าหลงรักสมพรมานับสิบปีและจะไม่รอเวลาอีก ต่อไป ทำให้สมพรถึงกับปลื้มและซาบซึ้งกับคำว่าความรักในครั้งนี้

โรเจอร์ตัดสินใจจะพากิ่งแก้วไปอยู่ที่ฝรั่งเศสด้วยจึงพาพ่อกับแม่ มาพบญาติผู้ใหญ่ของกิ่งแก้วที่บ้าน ชายหนุ่มออกปากอยากหาแม่ครัวคนไทยสักคนไปช่วยงานที่ร้านอาหารไทยที่โน่น กิ่งแก้วนึกถึงเพลินตาครูสาวของเกษราได้จึงเดินทางไปที่อ่างทองเพื่อพบครู เพลินตาที่นั่น ทั้งสมพรและนวลน้อยต่างก็ดีใจไปกับเพื่อนที่จะได้ไปอยู่ต่างประเทศ กิ่งแก้วได้พบกับเกษราที่นั่นเธอขอโทษในสิ่งที่ผ่านมาและหวังว่าเกษราจะกลับ ไปคืนดีกับวาทิตในเวลาไม่นาน ประจวบกับที่ปู่พจน์เสียชีวิตลงเกษราจึงยอมกลับมาที่อภิบูรณา ทุกคนมีท่าทีดีกับเธอไม่เหมือนดั่งแต่ก่อน วาทิตยอมสารภาพตรง ๆ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอในคืนนั้น แท้ที่จริงก็คือความรักที่อยู่ในใจของเขามาเป็นเวลานาน ชายหนุ่มทั้งเสียใจและน้อยใจที่เกษราทิ้งเขาไปอย่างนั้น ต่อไปนี้เขาจะไม่ยอมให้เกษราหนีไปไหนอีก ไม่ว่าหญิงสาวอยากจะทำตัวอย่างไรในบ้านอภิบูรณาเขาก็ยอมได้ทุกอย่าง หากแต่อย่าหนีหายไปจากชีวิตของเขาอีก

เกษราซาบซึ้งในความจริงใจที่วาทิตมีต่อเธอ หญิงสาวจึงยอมยกโทษให้กับความผิดที่ผ่านมา และเธอเองก็ยอมรับว่ารักวาทิตเช่นเดียวกัน ครูสมพรกับครูเติมตกลงที่จะแต่งงานกันและช่วยกันพัฒนาค่ายมวยสมพรยิม ด้านครูนวลน้อยก็ให้นายโชคหลานชายเลิกทำคณะรำซิ่งไปช่วยสายไหมทำกิจการร้าน อาหาร ส่วนตัวเองจะกลับไปเปิดโรงเรียนสอนดนตรีไทยที่กรุงเทพฯ โดยการสนับสนุนของเกษรา โชคกับสายไหมตกลงใจใช้ชีวิตร่วมกัน เพลินตาก็ติดตามโรเจอร์กับกิ่งแก้วไปอยู่ต่างประเทศไม่ยอมทิ้งกระทะกับ ตะหลิวอาชีพที่เธอรักไปตลอดชีวิต คุณไพลินกับคุณเรือนทองก็กลายเป็นคู่หูคู่ใหม่ที่ควงกันไปวัดเป็นประจำเพื่อ ไปปรึกษาพระเรื่องตั้งชื่อเหลนที่กำลังจะเกิดมา ทั้งสองบ้านกลายเป็นทองแผ่นเดียวกันโดยมีความรักของวาทิตและเกษราเป็นตัว เชื่อมความสัมพันธ์ของสองตระกูล


ที่มา : ช่อง 3