วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

สธ.เตือนเข้าป่าชม ฝนดาวตก ระวัง ไรอ่อน กัดที่ลับ




สธ.เตือนเข้าป่าชมฝนดาวตกระวังไรอ่อนกัดที่ลับ คนกรุงส่อแห้วอดชม นักดาราศาสตร์ชี้เมฆเยอะ (ข่าวสด)

          เมื่อ วันที่ 16 พ.ย. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ขณะนี้เป็นช่วงฤดูหนาว คาดว่าจะมีประชาชนจำนวนมากเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ธรรมชาติ เดินป่าหรือตั้งเต็นท์พักแรมในป่าเขา สัมผัสอากาศหนาว อีกทั้งในวันที่ 17-18 พ.ย. จะมีปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ และวันที่ 13 ธ.ค. จะมีฝนดาวตกเจมินิดส์ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางไปพักแรมในป่าเขา เพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติดังกล่าว หากเข้าไปในเขตพื้นที่เป็นแหล่งอาศัยของไรอ่อน และบังเอิญถูกไรอ่อนหรือไรแดง (Chigger) ที่มีเชื้อก่อโรคสครับ ไทฟัส กัด จะทำให้ป่วยเป็นโรคสครับ ไทฟัส (Scrub typhus) หรือโรคไข้รากสาดใหญ่ได้

          นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า จากรายงานการเฝ้าระวังโรคของสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 ต.ค. 52 มีผู้ป่วยเป็นโรคสครับไทฟัส เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ 4,197 ราย เสียชีวิต 6 ราย โดยภาคเหนือมีอัตราป่วยสูงสุด พบ 20 คนในประชากรแสนคน รองลงมาได้แก่ภาคใต้ 7 คนในประชากรแสนคน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 คนในประชากรแสนคน และภาคกลาง 2 คนในประชากรแสนคน

          นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า ขอแนะนำนักท่องเที่ยวเดินป่า หากจะกางเต๊นท์พักแรม ควรทำบริเวณค่ายพักให้โล่งเตียน หลีกเลี่ยงการนั่งและนอนกับพื้นดินติดบริเวณพุ่มไม้ ป่าละเมาะ หรือที่หญ้าขึ้นรก เนื่องจากเป็นที่อาศัยของตัวไรอ่อน ในการป้องกันตัวไม่ให้ไรอ่อนกัด ขอให้แต่งตัวให้รัดกุมมิดชิด ใส่กางเกงขายาวเสื้อแขนยาวปิดคอ เหน็บปลายเสื้อเข้าในกางเกง ใส่รองเท้าและสวมถุงเท้ายาวหุ้มปลายขากางเกงไว้ และทายากันแมลงตามแขนขาส่วนที่พ้นจากเสื้อผ้า เมื่อกลับจากการท่องเที่ยวพักแรมในป่า ขอให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที และซักเสื้อผ้าที่ใช้มาแล้วให้สะอาด เพื่อกำจัดตัวไรที่อาจติดมากับเสื้อผ้า

          นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ กล่าวว่า โรคสครับไทฟัส เป็นโรคติดต่อในสัตว์ฟันแทะที่อยู่ในป่า เกิดจากเชื้อริกเกตเซีย (Rickettsia) ซึ่งอยู่ในตัวไรอ่อน ที่อาศัยอยู่ตามตัวของสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระแต กระจ้อน เมื่อตัวไรอ่อนดังกล่าวไปกัดคน มักจะเข้าไปกัดในบริเวณร่มผ้า และปล่อยเชื้อริกเกตเซียเข้าสู่คน หลัง ถูกกัดประมาณ 10 -12 วัน จะมีไข้สูง ปวดศีรษะมาก คลื่นไส้ อาเจียน หูอื้อ เหงื่อออก หนาวสั่น ปวดเมื่อยตามตัว บางรายอาจมีอาการปวดน่อง ตาแดง ต่อมน้ำเหลืองอักเสบ มีตับโต ม้ามโต โดยผู้ที่ถูกไรอ่อนกัดประมาณร้อยละ 30 - 40 จะมีแผลบุ๋มสีดำ ลักษณะคล้ายโดนบุหรี่จี้ แต่ไม่เจ็บ ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้ หลังมีไข้ประมาณ 4-5 วันบางรายจะมีผื่นนูนแดงตามตัว กระจายไปแขนขา ซึ่งจะหายไปใน 2-3 วัน บางรายอาจมีอาการทางปอด ในรายที่รุนแรงอาจมีอาการสมอง คอแข็ง เสียชีวิตได้ ดังนั้น หาก มีอาการเหล่านี้หลังกลับออกจากเที่ยวป่า ภายใน 2 สัปดาห์ ควรรีบไปพบแพทย์ พร้อมแจ้งประวัติการไปเที่ยวป่าให้แพทย์ทราบด้วยเพื่อรับการรักษาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงถึงชีวิต ซึ่งโรงพยาบาลทุกแห่งมียารักษาโรคนี้หายขาด

          ด้าน นายบุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สำหรับผู้ที่ต้องการชมปรากฏการฝนดาวตกลีโอนิดส์ ซึ่งจะเกิดขึ้นเวลาหลังเที่ยงคืนวันที่ 17 พ.ย. ต่อเนื่องจนถึงช่วงเช้ามืดของวันที่ 18 พ.ย.นี้นั้น มีคำแนะนำเบื้องต้นว่า ควรจะหาพื้นที่ท้องฟ้าโปร่งไม่มีเมฆบัง รวมทั้งห่างไกลจากบริเวณที่มีแสงสว่างมาก ๆ เพื่อจะทำให้การดูฝนดาวตกมีความชัดเจนมาก อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าในระยะ 2-3 วันนี้จะมีเมฆบางส่วนในบางพื้นที่ ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคในการดูปรากฎการณ์ดาวลีโอนิดส์ตกบ้าง แต่ก็เชื่อในหลายพื้นที่จะสามารถมองเห็นฝนดาวตกได้อย่างชัดเจน

          นายบุญรักษา กล่าวต่อว่า สำหรับการตกของฝนดาวตกลีโอนิดส์ครั้งนี้จะยังไม่ใช่ปรากฎการณ์ฝนดาวตกครั้ง สุดท้ายในปีนี้ เพราะประมาณวันที่ 13-14 ธ.ค.ก็จะมีปรากฎการณ์ฝนดาวตกเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่เป็นฝนดาวตก เจมีนิดส์ ซึ่งผู้ที่พลาดการชมในครั้งนี้จะสามารถติดตามได้อีกครั้ง หนึ่ง ถึงแม้จะมีปริมาณการตกไม่มากเท่ากับการตกของฝนดาวตกลีโอนิดส์ก็ตาม และหลังจากปรากฎการณ์ทางดาราศาสตร์ในปีนี้แล้ว อยากให้ประชาชนติดตามชมปรากฎการณ์สุริยุปราคาที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งใน ต้นปีหน้า วันที่ 15 ม.ค. 53 ซึ่งจะเป็นปรากฎการณ์ที่น่าสนใจ และตื่นเต้นที่สุดอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อต้นปี 52 ที่ผ่านมา

          "สำหรับคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ก็อาจจะมีโอกาสมองเห็นฝนดาวตกได้ยากหน่อย เพราะนอกจากอาจจะมีเมฆมาบังแล้ว แสงนีออนจากไฟฟ้าในเมืองก็เป็นอุปสรรคสำคัญด้วย ทางทีดีหากต้องการดูปรากฎการณ์นี้จริงๆ คงจะต้องออกมาหาพื้นที่ไกลออกไปสักหน่อยเพื่อจะได้เห็นได้ชัดเจน" นายบุญรักษา กล่าว



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


เปิดคุกเพรย์ซอว์ ที่คุมขังวิศกรชาวไทย

คุกเพรย์ซอว์

คุกเพรย์ซอว์



เปิดคุกเพรย์ซอว์ โหดห้ามอุทธรณ์ (ไทยรัฐ)

          ตาม ที่กัมพูชาจับกุมตัว นายศิวรักษ์ โชติพงษ์ วัย 31 ปี ที่วิศวกร หน่วยควบคุมการจราจรทางอากาศ บริษัท แคมโบเดีย แอร์ ทราฟฟิก เซอร์วิสเซส จำกัด (CATS) บริษัทในเครือบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ของไทยซึ่งฝ่ายกัมพูชา อ้างว่า เป็นสายลับจารกรรมข้อมูลแผนตารางการบินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและถูกนำตัวไปขังนั้น

          ไทย รัฐออนไลน์ ขอเผยเรื่องราวภายในเรือนจำเพรย์ซอว์ ที่ถูกอ้างว่า เป็นที่คุมตัววิศวกรไทย โดยเรือนจำเพรย์ซอว์เป็นเรือนจำใหญ่ที่สุดในบรรดาเรือนจำทั้ง 24 แห่ง ของกัมพูชา มีนักโทษราว 500 คน ขึ้นกับกระทรวงกิจการภายในของกัมพูชาและทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข มีนาย Mong Kim Heng เป็นผู้อำนวยการตั้งแต่ปี 2000 ตั้งอยู่ห่างจากพนมเปญ 25 กิโลเมตร

          ภายในเรือนจำถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกเป็น เรือนจำชาย ซึ่งข้อมูลในส่วนของเรือนจำนี้มีน้อยมาก เนื่องจากผู้มาเยี่ยมน้อยรายที่จะได้รับอนุญาตให้เข้าไป ส่วนที่สองคือ เรือนจำหญิง ส่วนการศึกษาและศูนย์การแพทย์ อยู่ในความดูแลของ Chab Si Neang

แหกคุกเพรย์ซอว์

          แม้ ว่าบริเวณเรือนจำชายมีการดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด แต่ก็เคยมีนักโทษ 12 คน แหกคุกออกไปได้เมื่อปี 2006 ทำให้ ผู้คุมเรือนจำ 2 คน ถูกนำตัวไปสอบสวน หนึ่งในนักโทษที่หลบหนีเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับในข้อหายิงผู้ พิพากษาตาย ทั้งหมดหลบหนีด้วยการปีนออกทางหน้าต่างคุกชั้น 2 โดยใช้มุ้งและผ้าห่มผูกเข้าด้วยกัน

นักโทษพิเศษ

          ในเรือนจำเพรย์ซอว์ปัจจุบันมีนักโทษพิเศษ 3 คนได้แก่


          1. กอร์ดอน วอง ชาวออสเตรเลีย ต้องคดีลักลอบนำเข้ายาเสพติด
          2. เกรแฮม โรเบิร์ต เคล็กฮอร์น ผู้ต้องหาข่มขืนหญิงสาวกัมพูชา 5 ราย ชาวนิวซีแลนด์
          3. โยฮัน วินเธอร์ อเซลเซน หญิงชาวเดนมาร์กวัย 55 ปี ต้องคดีขนยาเข้าประเทศ ถูกตัดสินจำคุก 15 ปี

          ● ในเดือนสิงหาคมปี 2007 นาย เกรแฮม โรเบิร์ต เคล็กฮอร์น นักโทษชาวนิวซีแลนด์ วัย 60 ปี ที่รับโทษอยู่ในเรือนจำเพรย์ซอว์มา 20 ปี จากข้อหาข่มขืน เรียกร้องให้มีการสืบสวนหลังจากประธานศาลอุทธรณ์ Ly Vuoch Leng ถูกถอดออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการรับสินบนในคดีอื่น

          ครอบ ครัวของ เคล็กฮอร์น อ้างว่า เขาถูกเรียกร้องเงินจำนวนหนึ่งก่อนที่เจ้าตัวจะแพ้อุทธรณ์ในศาล  เคล็กฮอร์นแฉว่าเขาถูกจัดฉากโดยองค์กรช่วยเหลือสตรีในกัมพูชา

          ทั้ง นี้ เคล็กฮอร์น ไม่ได้กล่าวถึงเอกสารที่ครอบครัวของเขาใช้ในการกล่าวหาถึงเรื่องการติดสินบน เนื่องจากกลัวเรื่องความปลอดภัย โดยบอกเพียงว่าในคุกเพรย์ซอร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายนั้น ชีวิตของเขาอาจจะยุ่งยากขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ข้อกล่าวหาเรื่องความผิดด้านสิทธิมนุษยชนของเรือนจำเพรย์ซอว์

          ● หลังจากการเสียชีวิตของนักโทษในเรือนจำเพรย์ซอว์เมื่อวันที่ 28 เมษายน ปี 2008 นั้น หลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบสาธารณสุขในเรือนจำ

          Yan Sokea ซึ่งถูกจับในเดือน พฤศจิกายน ปี 2007 จากคดีขัดแย้งเรื่องที่ดินทำกิน ในเขตพระวิหาร เสียชีวิตลงที่โรงพยาบาลกัมพูชา-โซเวียต เพราะป่วยเป็นไข้แต่ไม่ได้รับการรักษา

          Ny Chakriya เจ้าหน้าที่หน่วยงานเฉพาะกิจเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบสาธารณสุขในเรือนจำ หลังจากที่ในปี 2007 มีนักโทษรวมถึงผู้ต้องสงสัย 24 ราย เสียชีวิตจากอาการป่วย เพราะขาดแคลนอาหารและยารักษาโรค เนื่องมาจากงบประมาณที่ไม่เพียงพอและการฉ้อราษฎร์บังหลวงในเรือนจำ

          ● นอกจากนี้ยังมีคดีของนาย Heng Touch ที่เสียชีวิตเพราะการโดนทำร้ายในเรือนจำซึ่งเป็นคดีที่น่าสะเทือนใจมาก โดยนาย Heng Touch ชาวกัมพูชา วัย 24 ปี อาศัยอยู่ในพนมเปญ ถูกจับส่งเข้าขังที่เรือนจำเพรย์ซอว์ก่อนพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 26 เดือนกันยายน ปี 2008 โดยอนุญาตให้มารดา นางAng Bak Kea เข้าเยี่ยมได้ ซึ่งนาย Heng Touch ก็บอกมารดาให้นำอาหารมาให้ด้วยในครั้งหน้า

          2 เดือนต่อมา นางAng Bak Keaได้รับแจ้งว่าลูกชายของเธอป่วย จึงรีบไปเยี่ยม เมื่อไปถึงพบว่านาย Heng Touch มีอาการป่วยเล็กน้อย ผู้คุมเรือนจำแนะว่านักโทษควรจะถูกย้ายไปห้องขังอื่น พร้อมทั้งขอค่าย้ายห้องเป็นเงิน 200 ดอลลาร์สหรัฐ โดยบอกว่าพร้อมจะลดให้เหลือ 100 ดอลลาร์สหรัฐ แต่นาง Ang Bak Kea  มีเงินอยู่แค่ 50 ดอลลาร์ จึงถูกปฏิเสธจากผู้คุม

          ถัด มา 2 วัน นางได้รับทราบว่า นาย Heng Touch ป่วยหนัก จึงเดินทางไปที่เรือนจำเพรย์ซอว์อีกครั้งและพบว่าลูกชายของเธอศีรษะบวม หน้ามีรอยฟกช้ำ ที่สะเทือนใจที่สุดคือลิ้นถูกตัดออก โดยนายHeng Touchอยู่ในสภาพไม่ได้สติขณะที่เธอไปถึง เธอจ่ายเงิน 30 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อขอให้ส่งลูกชายไปที่โรงพยาบาล Monivongในพนมเปญ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยฉุกเฉิน

          นาย Heng Touch เล่าให้มารดาฟังว่าเขาถูกผู้คุม 5 คนรุมทำร้ายจนสลบ จากนั้นจึงเริ่มอาเจียนและมีสุขภาพแย่ลง ผลสแกนศีรษะพบว่ากะโหลกของเขามีรอยร้าวและปอดเป็นแผล นายHeng Touch เสียชีวิตเมื่อวันที่ 21พฤศจิกายน ปี 2008

          นาง Ang Bak Kea เชื่อว่าลูกชายถูกทำร้ายเนื่องจาก เธอไม่ยอมจ่ายสินบน แต่ผู้บริหารเรือนจำเพรย์ซอว์ Mong Kim Heng ปฎิเสธโดยบอกว่านาย Heng Touch  พยายามฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้นตัวเองและเอาหัวโขกห้องขัง

ปัญหาคอร์รัปชั่นในเรือนจำเพรย์ซอว์

          ปัญหาการคอร์รัปชั่นจากประสบการณ์และมุมมองของชาวต่างชาติที่ได้มีโอกาสเข้าไปในเรือนจำหญิง

          ชาว ต่างชาติเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้มีโอกาสพาเด็กๆไปเยี่ยมมารดา ที่เรือนจำหญิงของเพรย์ซอว์ เมื่อวันที่ 17 เดือนตุลาคม ปี 2008

          หลัง จากที่คณะเดินทางไปถึงหน้าเรือนจำด้วยรถตุ๊กตุ๊กพร้อมด้วยคนขับรถชาวกัมพูชา ทั้งหมดถูกเจ้าหน้าที่สั่งให้รอหน้าเรือนจำ โดยอ้างว่ามีการประท้วงจากกลุ่ม NGO กระทั่งเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง ก็ยังไม่มีทีท่าว่าเจ้าหน้าที่จะเรียกให้เข้าไปแต่อย่างใด จนคนขับรถแนะว่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่เห็นว่ามีชาวต่างชาติมาด้วย จึงแกล้งปล่อยให้คอยจนกว่าคณะเดินทางจะยอมจ่ายเงิน

          ใน ที่สุดหลังจากจ่ายเงิน 20 ดอลลาร์ และลงทะเบียนด้วยหมายเลขพาสปอร์ต พร้อมกับบัตรประชาชนกัมพูชาของคนขับรถตุ๊กตุ๊ก คณะเดินทางก็ได้เข้าสู่เรือนจำ แต่เพื่อนชาวกัมพูชาของชาวต่างชาติรายนี้บอกว่า ที่จริงแล้วค่าธรรมเนียมในการเข้าเรือนจำถูกกว่านี้มาก

          บรรยากาศ ในห้องพักผู้มาเยี่ยมสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่นานมารดาของเด็กๆก็ออกมาพบลูกของพวกเธอโดยที่มีประตูลูกกรงกั้นอยู่ เด็กได้นำเงินและยามอบให้แม่ของพวกเขา 

          ส่วนผู้ คุมที่ยืนอยู่ห่างๆให้ความสนใจกับบรรดาสิ่งของที่เด็กนำมาให้มารดา จนชาวต่างชาติรายนี้อดสงสัยไม่ได้ว่าของจะต้องถูกนำไปแบ่งให้เจ้าหน้าที่ เป็นจำนวนมากน้อยแค่ไหน



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก