วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2553

แม่โวยสถานพินิจ ทำโทษลูก ซีม่าราดจู๋บวมเป่ง

สถานพินิจ

สถานพินิจ



แม่โวยสถานพินิจ ทำโทษลูก ซีม่าราดจู๋บวมเป่ง (ไทยรัฐ)

          แม่ร้องสื่อ สถานพินิจเมืองคอนลงโทษเด็กแหกสถานพินิจ ลูกวัย 14 ปีไม่เกี่ยวโดนด้วย ใช้แป๊บน้ำทุบตี จับถลกเจ้าโลก ราดซีม่าโลชั่นดิ้นพล่าน หนูน้อยไข้ขึ้นสูงหามส่งโรงพยาบาล - เจ้าโลกบวม หนองไหลเยิ้มเดินไม่ได้...


          จากกรณีที่เด็กและเยาวชน รวม 23 คน ในสถานพินิจเด็ก เยาวชน และครอบครัว จ.นครศรีธรรมราช แหกห้องขังหลบหนี เมื่อกลางดึก วันที่ 12 ม.ค. 2553 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดมกำลังออกติดตามจับกุมหลายชั่วโมง จนสามารถจับกุมกลับมาได้เกือบทั้งหมด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 2553 แม่ ของ ด.ช.โจ้ (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี ที่ถูกตำรวจ สภ.หัวไทร จับกุมในข้อหาวิ่งราวทรัพย์ ถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการแหกห้องขังหลบหนี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับชมรมนักข่าวจังหวัดนครศรีธรรมราช และ สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยระบุว่า ด.ช.โจ้ ถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2553 ยังไม่รู้จักใครเลย และ ในคืนวันที่ 12 ม.ค. 2553 เด็กในสถานพินิจจำนวน 23 คน แหกห้องขัง ด.ช.โจ้ นอนหลับ ไม่ได้หลบหนีออกไปด้วย 

          แม่ด.ช.โจ้ กล่าวต่อว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ติดตามตัวเด็กกลับมาได้เกือบทั้งหมด เจ้าหน้าที่ได้เรียกประชุมเด็กทั้งหมด และดำเนินการลงโทษเด็กทั้งหมดทั้งที่หลบหนี และ ไม่หลบหนี โดยบอกว่าต้องรับผิดชอบร่วมกัน วิธีการลงโทษคือ สั่งให้เด็กใช้แป๊บน้ำทุบตีเพื่อนคนอื่น ๆ อย่างโหดร้ายทารุณ ด.ช.โจ้ ที่โดนตีร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด และ โวยวายว่า ตัวเองไม่ได้กระทำผิดอะไร แต่มาโดนทุบตีด้วย จึงนำยาซีม่าโลชั่น 2 ขวด พร้อมสั่งให้เด็ก 1 คน จับ ด.ช.โจ้ แก้เปลือยจับอวัยวะเพศถลกและใช้ยาซีม่าโลชั่นราดบนอวัยวะเพศ ท่ามกลางเสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บปวดแสบร้อนของ ด.ช.โจ้ ที่พยายามดิ้นรนวิงวอนขอให้หยุดกระทำทารุณกรรม เจ้าหน้าที่กลับสั่งให้ราดยาซีม่าโลชั่นขวดที่ 2 ที่อวัยวะเพศของ ด.ช.โจ้ จนหมดขวดที่ 2 

          "ในตอนหัวค่ำ ด.ช.โจ้ ที่โดนทั้งทุบตีและราดยาซีม่าโลชั่นนอนซมไข้ขึ้นสูง เพ้อไม่ได้สติ จนทางสถานพินิจ ต้องนำตัวส่งรักษาที่สถานีอนามัยเขต 11 ต.บางจาก อ.เมือง นครศรีธรรมราช ทางสถานีอนามัย จึงแจ้งให้ญาติ ๆ ทราบ ทางญาติ ๆ จึงรีบเดินทางมาที่สถานีอนามัยเขต 11 และเห็นว่า ด.ช.โจ้อาการหนัก เพราะอวัยวะเพศบวมและเริ่มเปื่อยมีแผลและหนองไหลเยิ้ม จึงทำเรื่องขอประกันตัวจากศาลเด็กเยาวชนและครอบครัว โดยทางศาลขอให้ทาง ผอ.สถานพินิจนำหลักฐานการตรวจร่างกาย ด.ช.โจ้ มาประกอบการพิจารณา แต่ ผอ.สถานพินิจ ไม่ยอมให้เอกสาร ทางญาติ ๆ จึงต้องไปขอใบรับรองการตรวจร่างกายจากแพทย์สถานีอนามัยเขต 11 โดยตรง มายื่นต่อศาลพร้อมเงินสด 7,000 บาท ศาลได้พิจารณาให้ประกันตัว ด.ช.โจ้ ออกไปจากสถานพินิจ หลังจากนั้นญาติ ๆ จึงนำ ด.ช.โจ้ เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.หัวไทร อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช จนถึงขณะนี้แพทย์ยังไม่อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจาก อาการยังน่าเป็นห่วงยังไม่สามารถเดินไปไหนได้" แม่ กล่าว

          ด.ช.โจ้ เปิดเผยว่า ตนเพิ่งเข้าไปในสถานพินิจ ไม่รู้จักใครเลยและในคืนที่เขาหลบหนีตนก็ไม่รู้เรื่องและไม่ได้หลบหนี แต่กลับถูกลงโทษอย่างโหดร้ายทารุณไปด้วย สั่งให้เพื่อนจับตนเอาอวัยวะเพศออกมาแล้วราดด้วยยาซีม่าโลชั่น 2 ขวด ตนปวดแสบปวดร้อนอย่างหนัก ทำไมต้องทำกับตนถึงขนาดนี้ เด็กที่ทำความผิดถูกส่งตัวเข้าสถานพินิจ ต้องโดนกระทำอย่างโหดร้ายป่าเถื่อนอย่างนี้ทุกคนหรือ

          น.ส.ฝน (นามสมมุติ) น้าสาวของ ด.ช.โจ้ กล่าวว่า ด.ช.โจ้ เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่แยกทางกัน อาศัยอยู่กับยายและไม่ได้เรียนหนังสือ การก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์จนถูกจับกุมตัวเขารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เมื่อเหตุการณ์เป็นอย่างนี้ทางญาติ ๆ เป็นห่วงสวัสดิภาพของ ด.ช.โจ้ ที่จะต้องกลับเข้าไปในสถานพินิจอีก เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการประกันตัว หากศาลพิจารณาตัดสินลงโทษติดคุกต้องอยู่ในการดูแลของ ผอ.คนนี้รวมทั้งเจ้าหน้าที่สถานพินิจ ด.ช.โจ้ ไม่ถูกทารุณกรรมมากกว่านี้หรือ ตนและญาติ ๆ ไม่มั่นใจในความปลอดภัย หากศาลพิจารณาตัดสินจะย้ายสถานที่ต้องขังได้หรือไม่

          ด้าน นายปรีดีอนันต์ ติยานนท์ ผอ.สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวชี้แจงข้อเท็จจริงกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ทาง สถานพินิจ ไม่ได้ลงโทษเด็กสถานพินิจที่หลบหนีตามที่ถูกกล่าวหา แต่อย่างใดว่าให้ใช้เหล็กแป๊ปตีแล้วราดซีม่าโลชั่นที่อวัยวะเพศของ ด.ช.โจ้ แต่ข้อเท็จจริง ด.ช.โจ้ เพิ่งเข้าสถานพินิจ เมื่อประมาณ 1 อาทิตย์ก่อนเกิดเหตุเด็กหลบหนี แล้วขณะอยู่ในสถานพินิจ ด.ช.คนดังกล่าว มีอาการเป็นโรคผิวหนังคันที่บริเวณขาหนีบ และนำยาซีม่ามาทารักษาโรคผิวหนังที่คันบริเวณขาหนีบ ช่วงจังหวะนั้นมีกลุ่มเพื่อน ๆ ของ ด.ช.โจ้ เอ่ยปากจะช่วยทายาให้ แต่กลับกลั่นแกล้งด้วยการเทยาซีม่าโลชั่นจนหมดขวดใส่บริเวณอวัยวะเพศเพศจน แสบร้อน บวมเป่งจนต้องหามส่งโรงพยาบาลดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้กระทำตามที่ถูกญาติ ๆ ของเด็กกล่าวหาแต่อย่างใด และพรุ่งนี้ (18 มค.) เวลา 09.00 น.จะมีการแถลงข่าวข้อเท็จจริงให้สื่อมวลชนทราบต่อไป


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น