วันอังคารที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2553

สะท้อนปัญหาเด็กไทย ในวันเด็กแห่งชาติ


สะท้อนปัญหาเด็กไทย ในวันเด็กแห่งชาติ (ไทยรัฐ)

         "คิด สร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้  เชิดชูคุณธรรม" นั่นคือคำขวัญวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2553 ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้มอบเอาไว้เพื่อให้เด็กและเยาวชนไทย นำหลักแนวทางดังกล่าวนี้ไปประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกรอบของคุณธรรมความดี และบำเพ็ญประโยชน์แก่ส่วนรวม เพื่อช่วยกันนำพาบ้านเมืองไปสู่ความสุขสงบก้าวหน้ารุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป


         แต่ ปัจจุบันนี้  ทุกคนคงต้องยอมรับว่า เด็กและเยาวชนไทยส่วนใหญ่ยังคงมีปัญหาที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไขกันเป็น จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นปัญหายาเสพติด  ลักขโมย ทะเลาะวิวาท อบายมุข เด็กเร่ร่อน ซึ่งเริ่มกลายเป็นปัญหาสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ 

         สิ่งต่างๆ เหล่านี้จึงเป็นโจทย์ที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองต้องร่วมมือกันเร่งแก้ไข เพื่อยุติปัญหา ความรุนแรง ไม่ให้แผ่วงกว้างเพิ่มขึ้นไปมากกว่านี้



         "ครูหยุย"  วัลลภ ตังคณานุรักษ์   กรรมการเลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก    สะท้อนความคิดเห็นกรณีดังกล่าวผ่านมุมมองนี้ ว่า   ทุกวันนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนไทย เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกปีๆ  โดยเฉพาะปัญหายาเสพติด เนื่องจากจะพบว่าเด็ก วัยรุ่น  เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ผู้ค้าเริ่มเข้ามาเน้นกลุ่มเยาวชนเหล่านี้มากยิ่งขึ้น เพราะเป็นวัยที่อยากเรียนรู้และอยากทดลอง  รวมไปถึงปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อเด็กที่เกิดขึ้นจากครอบครัว  ทำให้เด็กต้องหนีออกจากบ้านและกลายเป็นเด็กเร่ร่อนไปในที่สุด

         " ครูหยุย" บอกด้วยว่า ปัญหาทั้งหมดรัฐบาลจะต้องรีบดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ทั้งเรื่องการกวาดล้างยาเสพติด และการแก้ปัญหาการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก รวมทั้งปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้ามาช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กและเยาวชนไทยให้เพิ่มขึ้นมากกว่านี้  เพราะแนวโน้มเด็กที่มีปัญหา มีจำนวนตัวเลขเพิิ่มขึ้นทุกๆปี  หากเด็กกลุ่มนี้ขาดการช่วยเหลือ ดูแลหรือควบคุมความประพฤติ  อาจเกิดผลกระทบตามมาภายหลังได้



         "สำหรับวันเด็กปีนี้ เชื่อว่าหน่วยงานทั้งรัฐบาลและเอกชนหลายแห่ง คงจัดกิจกรรมเพื่อเด็กกันเป็นจำนวนมาก เพื่อสร้างความสุข ความสนุกและรอยยิ้มให้กับเด็กๆ แต่สิ่งสำคัญที่สุดนั้นต้องอย่าลืมว่ายังมีเด็กและเยาวชนอีกจำนวนหนึ่งที่ ไม่มีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมในวันนี้ เนื่องจากกิจกรรมต่างๆ ไปไม่ถึงพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น  เด็กพิการ เด็กที่อยู่ห่างไกลความเจริญ บนเขาบนดอย  หรือในถิ่นทุรกันดาร ซึ่งในความเป็นจริงต้องยอมรับด้วยว่า หากจะให้วันนี้เป็นวันเด็กแห่งชาติที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริงนั้น ทุกหน่วยงานต้องกระจายอำนาจเข้าไปดูแลให้ทั่วถึง อย่าปล่อยให้เด็กเหล่านี้ต้องรอคอยอย่างไม่มีความหวัง"

         ครูหยุย กล่าวทิ้งท้ายว่า วันเด็กในปีนี้ อยากขอให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด  เพราะวันเด็ก เป็นอีกหนึ่งวันที่สะท้อนความคิดและการกระทำของผู้ใหญ่ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา  ดังนั้น ไม่ว่าจะคิด ทำสิ่งใดก็ตาม ขอให้นึกถึงสิ่งที่สำคัญและมีประโยชน์กับคนทุกฝ่ายให้มากที่สุด  โดยเฉพาะกับปัญหาของเด็กและเยาวชนที่รัฐบาลต้องหันมาใส่ใจและเร่งดำเนินการ การแก้ไขโดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นปัญหาสังคมในอนาคตต่อไป



         ด้านนายรัชฏะ ศรีบุญรัตน์  หรือ "น้องต้นไม้" ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย  บอก ว่า  สำหรับวันเด็กในปีนี้ อยากให้เป็นปีที่รัฐบาลเริ่มจริงจัง และเห็นความสำคัญของการเดินหน้าพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของเด็กและเยาวชนให้ เต็มที่มากกว่านี้ แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจะแสดงผลงานให้เห็นแล้ว แต่มีนโยบายบางส่วน ยังไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนได้ทั้งหมด หากรัฐบาลต้องการที่จะผลักดันและส่งเสริมคุณภาพชีวิตอย่างจริงจัง ควรส่งเสริมนโยบายที่เข้ากับการพัฒนาเด็กและเยาวชนโดยตรง เชื่อว่าหากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันอย่างเต็มที่แล้ว เด็กและเยาวชนจะสามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพที่ดีในอนาคตได้

         นอกจากนี้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2553  ที่ตรงกับวันที่ 9 ม.ค.นี้  ตนในฐานะของประธานสภาเด็กและเยาวชนฯ อยากเห็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ศึกษาและเรียนรู้คำว่าเสียสละให้มากขึ้น ไม่อยากให้หมกหมุ่นอยู่กับปัจจัยที่เป็นวัตถุสิ่งของและเงินทองเพียงอย่าง เดียว และที่สำคัญการเสียสละถือเป็นกำลังใจอย่างหนึ่งที่ช่วยให้บุคคลที่กำลัง ประสบปัญหาลุกขึ้นมาต่อสู้ได้

         ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงเหตุผลที่สะท้อนความคิดให้ทุกคนเริ่มจริงจังกับปัญหาที่เกิดขึ้น และไม่ควรปล่อยให้เนื้อร้ายกระจายเข้ามาทำลายชีวิตของเด็กที่เปรียบเสมือน อนาคตของชาติอีกต่อไป  แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไรที่จะเห็นเด็กไทยได้โอกาสที่ดีกับเขาเสียที




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น